โควิด19ระบาดหนักในเมียนมาหวั่นต่างด้าวลอบข้ามแดนแพร่เชื้อ ทหารผาเมืองคุมเข้ม4อำเภอชายแดนจ.เชียงราย

ที่ห้องประชุมที่ว่าการอ.แม่สาย จ.เชียงราย พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี ผบ.กองกำลังผาเมือง พ.อ.ชาตรี สงวนธรรม ผบ.ฉก.ม.2 พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเที๊ยะ หัวหน้ากลุ่มงานนโยบายแผนและการข่าว กอ.รมน.จ.เชียงราย หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 31 ร่วมกับ นายอำเภอ แม่สาย แม่จัน แม่ฟ้าหลวง และเชียงราย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำหมู่บ้าน ร่วมประชุมหารือการป้องกันการแพร่ระบาดโรคไวรัส โควิด-19 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอแม่สาย โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เข้าร่วม

พล.ต.ถนัดพล โกศัยเสวี กล่าวว่า ตามด่านถาวรต่างๆ ในพื้นที่ จ.เชียงรายนั้นไม่น่าเป็นห่วงเพราะมีการควบคุมโรคประจำแต่ละด่านอยู่แล้ว แต่ที่เป็นห่วงและต้องขอความร่วมในแต่ละหมู่บ้านตามแนวชายแดนช่วยกันสอดส่องเป็นหูเป็นตาให้กับทางเจ้าหน้าที่หากพบคนแปลกหน้าเข้ามาในชุมชน อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ก็ได้มีการลาดตระเวณตามแนวชายแดน โดยมีการใช้โดรนตรวจการทางอากาศ การเพิ่มกำลังในการลาดตระเวณ เพิ่มรั้วลวดหนามแบบหีมเพลงเพื่อเสริมความแข็งแรง รวมไปถึงเพิ่มไฟส่องสว่างในจุดที่มืดและมองไม่เห็น

โดยการหารือในครั้งนี้ เพื่อวางแผนในการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดซ้ำรอบ 2 ในประเทศเมียนมา ซึ่งทางการเมียนมาได้สั่งปิดโรงเรียนทั่วประเทศเพื่อป้องกันการติดต่อโดยในพื้นที่ชายแดน จ.เชียงราย มี 4 อำเภอที่มีชายแดนต่อกับประเทศเมียนมา และมีช่องทางที่สามรรถเดินทางข้ามพรมแดนตามเส้นทางธรรมชาติได้ตลอดแนวชายแดน จึงต้องมีการป้องกันไม่ให้มีการลักลอบเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย เพื่อป้องกันผู้ที่อาจจะมีเชื้อไวรัสโควิด-19 เข้ามาในประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 23 มี.ค.-26 ส.ค.สามรรถจับกุมผู้ลักลอบข้ามแดนได้ 56 ครั้ง ผู้ต้องหา 151 ราย เป็นชาวเมียนมา 83 ราย ไทย 54 ราย ลาว 12 ราย และจีน 2 ราย

การป้องกันการแพร่ระบาดตามแนวชายแดนนั้นสำคัญมาก เพราะหากมีผู้ติดเชื้อหลุดลอดเข้ามาได้เพียง 1 คนอาจส่งผลกระทบและแพร่เชื้อเป็นวงกว้างได้ ดังนั้นจึงต้องขอความร่วมมือกับทุกฝ่ายทั้งภาคประชาชน และทางฝ่ายปกครองในพื้นที่ช่วยกันสอดส่องเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบ 2 ในประเทศไทย” ผบ.กองกำลังผาเมืองกล่าวในที่สุด

ชาวบ้านร่ำไห้”พระเจ้าตอง”พระพุทธรูปอายุ900ปีหายถูกโจรขโมยนานกว่า30ปี วอนสื่อช่วยตามหาลงขันตั้งรางวัลชี้เบาะแสถ้าได้คืนจ่าย1แสนบาท

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณโบราณสถานวัดศรีปิงเมือง ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา นายสุเวช ไข่ทา ผู้ใหญ่บ้านเวียงลอ ม.11 พร้อมชาวบ้านใน ต.ลอ กว่า 20 คน ได้พาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เข้าไปดูพระพุทธรูปจำลอง “ พระเจ้าตอง “ หลังจากถูกกลุ่มมารศาสนาร่วมกันขโมยออกไปจากโบราณสถานเวียงลอ วัดศรีปิงเมือง ไปเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2531 นับมาจนถึงปัจจุบันได้ 32 ปี

นายสุเวช กล่าวว่า “พระเจ้าตอง” เป็น พระสิงห์สาม เป็นทองสัมฤทธิ์ หน้าตักกว้าง 79 ซม. สูง 128 ซม. มีพุทธลักษณะที่งดงาม แต่มีร่องรอยตำหนิคือบริเวณฐานหน้าด้านขวา มีร่องรอยถูกของมีคมอาจจะเป็นมีดหรือดาบฟัน สามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน พระเจ้าตองเป็นงานช่างฝีมือสกุลเวียงลอโดยคนเวียงลอโดยแท้ องค์พระประดิษฐาน ณ วัดศรีปิงเมือง บ้านเวียงลอ ต.ลอ อ.จุน จ.พะเยา เป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของคน อ.จุน และเป็นที่เคารพสักการะของคน อ.จุน ตั้งแต่ครั้งสมัยโบราณ มีอายุกว่า 900 ปี แต่หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2531 เวลาประมาณ 02.00 น. ได้มีกลุ่มชายฉกรรจ์ 6 คน ได้อาศัยความมืดแอบเข้าไปในวัดศรีปิงเมือง ซึ่งเป็นที่ตั้งของโบราณสถานเวียงลอ แอบเข้าไปยกองค์พระเจ้าตองจากที่ประดิษฐาน บริเวณศาลาหลังเก่าสองชั้นที่มีกรงเหล็กปิดกั้นล้อมไว้อย่างหนาแน่น พร้อมพระพุทธรูปสัมฤทธิ์อื่นๆ อีก 3 องค์ ซึ่งเจ้าอาวาสในสมัยนั้นท่านเกรงว่าจะมีขโมยมาลักไป จึงได้ทำกรงล้อมปิด พร้อมกันนั้นท่านได้นำเอาสีน้ำมันมาทาปิดองค์ทองสัมฤทธิ์ทั่วองค์เพื่อไม่ให้เป็นที่สะดุดตาแลดูไร้ค่า ทั้งนี้ตรงบริเวณยอดเกศายังเป็นทองคำแท้หนักเท่าไหร่มิทราบได้ แต่เนื่องจากเป็นวัตถุทางใจก็ไม่อาจที่ประเมินค่าของทองคำนั้นได้ จากนั้นขโมยก็นำขึ้นรถสองแถวไปส่งให้พ่อค้าของเก่าที่ จ.เชียงราย ก่อนที่จะนำไปขายต่อให้พ่อค้าที่กรุงเทพฯ ทั้งนี้ทางชุมชนเวียงลอ มีความพยายามตามหาพระเจ้าตองอย่างต่อเนื่องมาตลอด ซึ่งล่าสุดประกาศขอบูชาคืน หรือมีผู้ใดชี้เบาะแส จะมอบสินน้ำใจให้ 100,000 บาท

ด้าน นายมนัส เวียงลอ อดีตผู้ใหญ่บ้านเวียง เผยว่า พระเจ้าตอง เป็นพระพุทธรูปที่ศักดิ์มาก กล่าวว่า ถ้าจะถ่ายรูป พระเจ้าตอง ต้องนำดอกไม้ธูปเทียนมาขออนุญาตองค์ท่านก่อนถึงจะถ่ายรูปติด และยังมีเรื่องอภินิหารอีกอย่างคือ การจะยกหรือเคลื่อนย้ายองค์ท่าน หากไม่ยกพานดอกไม้ธูปเทียนอนุญาต ผู้ชายฉกรรจ์ กว่า 10 คนก็ไม่สามารถยกขึ้นได้แม้แต่น้อย ส่วนโจรใจบาปที่มาขโมยองค์ท่านไป อาจจะใช้คนที่มีวิชาอาคมแก่กล้าเข้ามาร่วมด้วยถึงได้ทำการขโมยพระเจ้าตองไปได้ ตัวเองนึกย้อนกลับไปแล้วปวดใจเป็นอย่างมาก ด้านผู้เฒ่าผู้แก่ที่ได้เล่าเหตุการณ์คืนที่พระเจ้าตองถูกขโมย คืนนั้นได้เกิดวิปริตอาเพศ เกิดฟ้าร้องฟ้าแลบแปรบปราบ ลมกรรโชกแรง เหมือนจะเกิดฝนฟ้าคะนองอย่างนัก แต่แล้วกลับไม่มีฝนตกลงมา ซึ่งเป็นที่น่าอัศจรรย์ใจยิ่งนัก

ขณะที่ชาวบ้านกำลังเล่าของประวัติพระเจ้าตอง จู่ๆชาวบ้านต่างร้องอุทานพร้อมกัน เมื่อมองไปเห็นพระพุทธรูปองค์พระเจ้าตอง จำลอง ที่ประดิษฐานในวิหาร ก็พบว่าที่ใต้พระเนตรทั้งสองข้างมีคราบสีขาวจางๆไหลเป็นทางยาว คล้ายน้ำตาไหลอาบพระปราง ทำให้ชาวบ้านที่มาถึงกลับน้ำตาคลอ บางหายถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความอักอั้นตันใจ พร้อมวอนขอคืนพระเจ้าตองให้กลับมาประดิษฐานไว้ที่เดิมอีกครั้ง

ชาวสวนลำไยเฮ รับเงินเยียวยาจากรัฐบาล ปี63 ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 25 ไร่ ต้องขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตรภายใน 15 ก.ย.นี้ “ลดาวัลลิ์”จี้แก้ไขปัญหาลำไยระยะยาวครบวงจรและตรวจสอบความโปร่งใส

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานผู้ก่อตั้งพรรคเสมอภาค กล่าวว่า จากการติดตาม รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของชาวสวนลำไยในภาคเหนือและเครือข่ายชาวสวนลำไยทั่วประเทศ ผ่านประธานสภาอาชีพเกษตร ได้ทราบถึงความทุกข์ร้อนของชาวสวนลำไยที่ได้รับผลกระทบจากภัยแล้งและมีปัญหาการตลาด และได้เสนอขอให้รัฐบาลโดย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จัดสรรงบประมาณเยียวยาให้ชาวสวนลำไยชดเชยความเสียหายที่ได้รับ และ ขอแสดงความยินดีกับเกษตรกรชาวสวนลำไยทั่วประเทศที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลตามที่ร้องขอ คณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อวันที่ 25 ส.ค. ได้เห็นชอบตามข้อเสนอของคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ (Fruit Board) ที่ได้รับแจ้งจากสภาอาชีพเกษตรกร และมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตรในฐานะเลขานุการ Fruit Board เสนอโครงการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 เพื่อช่วยเหลือชาวสวนให้สามารถฟื้นฟูการผลิตลำไยที่ได้รับผลกระทบทั้งด้านการผลิตและการตลาด รวมทั้งส่งเสริมและสนับสนุนให้มีแนวทางปฏิบัติต่อสวนลำไยเพื่อประกอบอาชีพได้อย่างยั่งยืน เป้าหมายของโครงการจะต้องเป็นเกษตรกรชาวสวนลำไย ปี 2563 ที่ขึ้นทะเบียนเกษตรกรกับกรมส่งเสริมการเกษตรทุกครัวเรือน ประมาณ 200,000 ครัวเรือน พื้นที่ไม่เกิน 1,200,000 ไร่ และเป็นพื้นที่ลำไยที่ให้ผลผลิตแล้ว  (อายุต้นลำไยตั้งแต่ 5 ปี ขึ้นไป) อัตราไร่ละ 2,000 บาท ครัวเรือนละไม่เกิน 25 ไร่

นอกจากเงินเยียวยาชาวสวนลำไยแล้วขอฝากให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ดำเนินการแก้ไขปัญหาลำใยในระยะยาวอย่างครบวงจร และเห็นด้วยที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ดำเนินการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนลำไยอย่างทั่วถึง โปร่งใส เป็นธรรม และตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันการทุจริตและให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไยมากที่สุด และขอให้แจ้งข้อมูล กฎเกณท์ ขั้นตอน คุณสมบัติเกษตรกร และระยะเวลาที่กำหนด ให้ชาวสวนลำไยได้รับรู้อย่างทั่วถึง รวมทั้งขอให้การช่วยเหลือชาวสวนลำไยครั้งนี้มีความเสมอภาคเท่าเทียมกันทุกรายด้วย” นางลดาวัลลิ์กล่าว

เก๋งซิ่งฝ่าสายฝนตกคูเมืองโชคดีคนขับสติยังดีออกมาได้ก่อนจมน้ำ

เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 27 ส.ค.63 ร.ต.อ.นพดล ชัยนันตา ร้อยเวร สภ.เมือง จ.เชียงใหม่ รับแจ้งเหตุรถยนต์เสียหลักพุ่งตกลงไปในคูเมือง เหตุเกิดคูเมืองตรงข้ามตลาดประตูเชียงใหม่ จึงได้รุดไปตรวจสอบพร้อมพวกและเจ้าหน้าที่กู้ภัย พบผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เป็นชายอายุประมาณ 30-40 ปี ได้รับบาดเจ็บถูกกระแทกบริเวณศรีษะทำให้หัวแตกและมีอาการมึนงง จึงได้ปฐมพยาบาลก่อนส่งรักษาต่อที่ รพ.อย่างเร่งด่วน

ในคูเมืองพบว่ารถเก๋ง ยี่ห้อมาสด้า สีน้ำเงิน หมายเลขทะเบียน กข 7185 ลำปาง สภาพรถบริเวณฝั่งซ้ายมีร่องรอยชนจนพังยับ ซึ่งคาดว่าน่าจะชนเข้ากับต้นไม้ที่อยู่บริเวณข้างคูเมืองก่อนที่จะกระเด็นตกลงไป จึงช่วยกันเก็บกู้ขึ้นมาได้ในเวลาต่อมาสอบสวนเบื้องต้นทราบว่ารถยนต์คันดังกล่าวได้ขับมาตามเส้นทางคูเมืองด้านนอก ซึ่งระหว่างนั้นเป็นช่วงที่มีฝนตกลงมาถนนเปียกแฉะคาดว่ารถน่าเสียหลักแล้วปีนขึ้นฟุตบาทก่อนจะไปชนกับต้นไม้แล้วกระเด็นตกลงไปในน้ำพร้อมกับคนขับโชคดียังมีสติออกมาได้ทันก่อนที่รถจะจมน้ำ

มูลนิธิพัฒนาแม่ฮ่องสอนร่วมกับสมาคมสตรีแม่ฮ่องสอน จับมือภาครัฐองค์กรเอกชนและประชาชน ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาที่ยั่งยืน น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก

ที่อาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอนพล.ท.สุรพล ตาปนานนท์ ประธานมูลนิธิพัฒนาแม่ฮ่องสอน นางนันทิยา วงศ์วานิชย์ นายกสมาคมสตรีจังหวัดแม่ฮ่องสอน จับมือภาครัฐ เอกชน ผู้แทนจากสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1 สาขาแม่ฮ่องสอน สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง ,การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค สำนักงานชลประทานจังหวัด และประชาชนจากทุกอำเภอในจังหวัดแม่ฮ่องสอนกว่า 1,000 คน สร้างการรับรู้การขอใช้พื้นที่ป่า ตามยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน น้ำไหล ไฟสว่าง ทางสะดวก เพิ่มรายได้ คนอยู่กับป่า ณ อาคารสหกรณ์ออมทรัพย์ครูแม่ฮ่องสอน

ประธานมูลนิธิพัฒนาแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ข้อมูลของกรมป่าไม้ จังหวัดแม่ฮ่องสอน มีพื้นที่ทั้งหมดประมาณ 7 ล้านไร่ พื้นที่ป่าที่สมบูรณ์มากเป็นอันดับ 1 ของประเทศไทยมากถึง 6 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 86.5 ของพื้นที่จังหวัด ประกอบด้วย 6 อุทยานแห่งชาติ 6 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า และเป็นพื้นที่ที่ไม่มีสภาพป่ากว่า 1 ล้านไร่ คิดเป็นร้อยละ 13.5 ของพื้นที่ทั้งจังหวัด โดยเป็นพื้นที่มีเอกสารสิทธิ 105,319 ไร่ เป็นพื้นที่ ส.ป.ก.25,000 ไร่ และพื้นที่ขอใช้ประโยชน์ 45,000 ไร่ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ที่ราษฏรถือครองโดยมิชอบด้วยกฎหมาย 853,929.5 ไร่ โดยมีพื้นที่เป้าหมายโครงการ คทช.ในป่าสงวนแห่งชาติของจังหวัดแม่ฮ่องสอน 9 ป่า รวมเนื้อที่ 75,669 ไร่ จากสภาพพื้นที่ป่าของจังหวัดแม่ฮ่องสอนที่มีความอุดมสมบูรณ์มากที่สุดในประเทศไทย ทำให้การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทั้งถนน แหล่งน้ำ ไฟฟ้า และการพัฒนาด้านอื่น ๆ โดยเฉพาะไฟฟ้าหลายหมู่บ้านในพื้นที่ทุรกันดารยังไม่มีไฟฟ้าใช้ บางหมู่บ้านปักเสาเดินสายแต่ไร้แสงสว่าง ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากติดข้อกฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ มากมาย ซึ่งก็มีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาชนได้พยายามเข้ามาช่วยกันแก้ปัญหา คนอยู่กับป่า ป่าไม่ถูกทำลาย

พล.ท.สุรพล กล่าวต่อไปว่าในการจัดเสวนาดังกล่าวเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการขออนุญาต การขอใช้พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ภายใน 180 วัน การขออนุมัติหลักการทำถนน,ไฟฟ้า โดยนำแนวทางโครงการบ้านน้ำบ่อสะเป่ อ.ปางมะผ้า ซึ่งทำสำเร็จแล้วมาเป็นโมเดล รวมทั้งการสร้างรายได้ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ การดำเนินงานขับเคลื่อนโครงการห้วยม่วงก่อนโมเดล และการดำเนินการขับเคลื่อนโครงการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ทำอย่างไรเราจะสามารถปักเสา เดินสายไฟ ปล่อยกระแสไฟฟ้า ผ่านเขตอนุรักษ์ ผ่านป่า ถึงชุมชนถึงบ้านเรือนประชาชนที่ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ได้ ทำอย่างไรเราถึงจะสร้างถนนผ่านเขตป่าได้ หรือว่าโครงการของชลประทาน อ่างเก็บน้ำ ฝาย ที่ติดในพื้นที่ของเขตป่าสงวน เขตอนุรักษ์ หรืออุทยานสามารถขับเคลื่อนได้ รวมทั้งตามมติ ครม.สิ่งใดที่มีการก่อสร้างในเขตของกรมป่าไม้จะต้องมีการขออนุญาต สำหรับส่วนราชการที่ทำไปแล้ว สร้างไปแล้วที่ยังไม่ขออนุญาตจะต้องทำเรื่องขออนุญาตภายใน 180 วันโดยยึดหลักของกฎหมายเข้ามาช่วยแก้ปัญหา การเสนอโครงการจะต้องมีหน่วยงานเจ้าของพื้นที่ เช่น ป่าไม้ หน่วยอนุรักษ์ เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า เข้ามาร่วมเป็นเจ้าของโครงการด้วย ทุกภาคส่วนเรามาร่วมกันพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตนได้เชิญผู้แทนจากป่าไม้ , เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า, การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค , และสำนักงานชลประทาน มาให้คำแนะนำ มาตอบคำถาม มาให้ข้อมูลให้ความรู้แก่ประชาชนถึงข้อกฎหมายกฎระเบียบต่าง ๆ มาเริ่มต้นแนวทางปฏิบัติที่เป็นจริงเป็นจัง มาขับเคลื่อนร่วมกัน เอกสารโครงการติดขัดตรงไหนเรามาช่วยกันแก้ ก็จะทำให้การพัฒนาแม่ฮ่องสอนสามารถเดินไปได้

ว.พลังงานทดแทน ม.แม่โจ้ จับมือกับบริษัทเอกชนร่วมสร้างความเข้มแข็งทางการศึกษาด้านพลังงานทนแทน

วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดให้มีพิธีลงนามความร่วมมือทางวิชาการกับ 2 บริษัทเอกชน ได้แก่ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด เพื่อร่วมกันเสริมสร้างความเข้มแข็งทางการศึกษาด้านพลังงานทดแทน โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วีระพล ทองมา อธิการบดีมหาวิทยาลัยแม่โจ้ นายชัชพล ประสพโชค ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) และ นายพงศ์พัฒน์ มั่งคั่ง กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด เป็นผู้แทนลงนามของแต่ละฝ่าย ทั้งนี้ คณะผู้บริหารของแต่ละหน่วยงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน ณ ห้องประชุมสภามหาวิทยาลัย ชั้น 5 อาคารสำนักงานมหาวิทยาลัย

ปัจจุบันวิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้เปิดการเรียนการสอนใน 3 ระดับ ได้แก่ ระดับปริญญาตรี หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาพลังงานทดแทน หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาการอนุรักษ์พลังงาน (ต่อเนื่อง) ระดับปริญญาโท หลักสูตรวิศวกรรมศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาวิศวกรรมพลังงานทดแทน และในระดับปริญญาเอก สาขาวิชา วิศวกรรมพลังงานทดแทน วิทยาลัยพลังงานทดแทน มีผลการดำเนินงานเชิงประจักษ์หลากหลายกิจกรรม ทั้งในส่วนของคณาจารย์ และนักศึกษา อันประกอบไปด้วยผลงานทางวิชาการ ผลงานวิจัย และผลงานบริการวิชาการแก่สังคม หลายผลงานได้รับการสนับสนุนจากแหล่งทุนภายนอก และได้รับรางวัลจากหลายภาคส่วน นอกจากนั้นวิทยาลัยฯ ได้มีการพัฒนา ปรับปรุง จัดสิ่งสนับสนุนการเรียนรู้ ส่งเสริมสนับสนุนให้เกิดความก้าวหน้าในสายงาน ตลอดจนสนับสนุนให้นักศึกษาได้รับประสบการณ์จากการเรียนรู้นอกห้องเรียนเพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนรู้ในทศวรรษที่ 21 ให้แก่นักศึกษาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับการลงนามความร่วมมือ กับ บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) และ บริษัท อินโนเวชั่น เทคโนโลยี จำกัด ในครั้งนี้ เพื่อร่วมสนับสนุนการออกแบบหลักสูตรที่จะช่วยยกระดับสมรรถนะ รวมทั้งกลยุทธ์การจัดการเรียนการสอนให้เหมาะสมกับภาคอุตสาหกรรม และการรับนักศึกษาเข้าฝึกงานสหกิจศึกษา รวมถึงการพัฒนาบุคลากรของมหาวิทยาลัยให้มีทักษะ ประสบการณ์ภายใต้การถ่ายทอดความรู้จากสถานประกอบการจริง โดยบูรณาการการทำงานร่วมกันโอกาสเดียวกันนี้ บริษัท แอดวานซ์ อิควิปเม้นท์ โซลูชั่น จำกัด โดย นายภสุ ชัยบุญเรือง ประธานกรรมการผู้จัดการ ได้มอบอุปกรณ์สำหรับการประเมินสมรรถนะของบุคคลตามมาตรฐานอาชีพ ของสถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ให้แก่วิทยาลัยพลังงานทดแทน มหาวิทยาลัยแม่โจ้ รวมมูลค่า 300,000 บาท เพราะการพัฒนาคนในอาชีพด้วยระบบการรับรองสมรรถนะบุคคลในอาชีพให้เป็นมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในสังคมจะช่วยยกระดับความก้าวหน้าของผู้ประกอบอาชีพ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของนักศึกษาและผู้ประกอบการต่อไป

เปิดใช้เส้นทางท่องเที่ยวธรรมชาติ”ป่าบงเปียง” รถเก๋งก็ขับขึ้นไปชมนาขั้นบันไดได้แล้ว

แขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ เปิดใช้เส้นทางลาดยางแหล่งท่องเที่ยวน้ำตกทรายเหลือง-ป่าบงเปียง อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ หลังจากใช้งบประมาณ ประจำปี 2562 และ 2563 เข้ามาดำเนินการก่อสร้างถนนคอนกรีตลาดยาง ความยาว 4.5 กิโลเมตร เพื่อปรับปรุงเส้นทาง เดิมจากเดิมเป็นเส้นทางถนนลูกรัง เข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติ น้ำตกทรายเหลือง และหมู่บ้านป่าบงเปียง เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยว ที่นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวชมทางธรรมชาติ พักแรม และ ชมนาขั้นบันไดที่สวยงามที่สุดในประเทศไทย ที่ บ้านป่าบงเปียง

นายฉัตรชัย จอมเดช ผู้อำนวยการรส่วนปฎิบัติการแขวงทางหลวงชนบทเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เดิมที การเดินทางไปเที่ยวชม นาขั้นบันได ที่หมู่บ้านป่าบงเปียง นั้นการเดินทางค่อนข้างลำบากต้องใช้รถโฟวิล ในหน้าฝนเท่านั้น ต่อมาทางกรมทางหลวงชนบทได้รับงบประมาณสนับสนุนจากทางราชการ เข้ามาปรับปรุงซ่อมแซมเส้นทาง ดังกล่าว ลาดยาง จนแล้วเสร็จ สมบูรณ์ขณะนี้ได้เปิด ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวสัญจรเข้าออก เส้นทางการท่องเที่ยวธรรมชาติได้แล้วโดยนักท่องเที่ยวสามารถ จะใช้รถเก๋งเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวยังหมู่บ้านป่าบงเปียงได้เลย โดยทางชาวบ้านในหมู่บ้านมีโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวได้พักด้วย

นักท่องเที่ยวคนหนึ่งที่เดินทางมาจากจังหวัดอุตรดิตถ์ได้มาพักค้างคืน กล่าวว่า อากาศที่นี่เย็นสบายมาก ช่วงนี้เป็นช่วงหน้าฝน หากฝนหยุดตกแล้วมองดูทิวทัศน์รอบๆป่าบงเปียงซึ่งเป็นภูเขาจะเขียวชอุ่มและมีเมฆหมอกลอยเต็มท้องฟ้า บรรยากาศฟินมากส่วน บ้านพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านมีให้เช่า เช่าพักนอนค้างคืนได้โดยคิดค่าบริการนักท่องเที่ยวหัวละ 500 บาทต่อคนพร้อมอาหาร 2 มื้อ

คณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเชียงใหม่ สุ่มลงพื้นสอดส่องโครงการงบพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่

นายถวิลบัวจีน รองประธาน กรรมาธิการธรรมาภิบาลจังหวัดเชียงใหม่(กธจ.) ได้นำคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางลงพื้นที่ส่องโครงการ ที่ได้รับงบประมาณสนับสนุนจากจังหวัดเชียงใหม่ ประจำปี 2563

โดยคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดเชียงใหม่ได้มีการสุ่มลงพื้นที่สอดส่อง การก่อสร้างถนนโครงการปรับปรุงเส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวน้ำตกห้วยทรายเหลือง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ โครงการปรับปรุงเส้นทางเข้าวัดพระธาตุดอยน้อย ตำบลดอยหล่อ อำเภอดอยหล่อ จังหวัดเชียงใหม่ และ ลงพื้นที่สอดส่องโครงการพัฒนา ศักยภาพการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ และการปรับปรุงเส้นทางเข้าสู่แหล่งท่องเที่ยวห้วยตึงเฒ่าอำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่

นายถวิลฯกล่าวว่าการนำคณะกรรมาธิการลงพื้นที่ร่วมสอดส่อง ติดตามผล งบพัฒนาจังหวัดเชียงใหม่ประจำปีงบประมาณ 2563 นั้นเพื่อเป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี ก่อนที่จะทำบันทึกเสนอต่อสำนักนายกรัฐมนตรีต่อไป

นักรบสีน้ำเงิน นพค.36 ส่งชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็วเข้าขนย้ายข้าวของช่าวยราฏรบ้านแม่สามแลบ หลังแม่น้ำสาละวินเพิ่มระดับสูงขึ้นเข้าท่วมพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

หน่วยพัฒนาการเคลื่อนที่ 36 สำนักงานพัฒนาภาค 3 หน่วยบัญชาการทหารพัฒนา กองบัญชาการกองทัพไทย ( นพค.36 สนภ.3 นทพ.)จ.แม่ฮ่องสอน ส่งกำลังพลชุดบรรเทาสาธารณภัยเคลื่อนที่เร็ว 36 เข้าช่วยเหลือราษฏรบ้านแม่สามแลบ ต.แม่สามแลบ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน โดยช่วยขนย้ายสิ่งของและอพยพประชาชนที่ปลูกบ้านเรือนอยู่ริมตลิ่งให้ขึ้นไปอยู่ในที่ปลอดภัย จำนวน 22 ครอบครัว

ทั้งนี้ เนื่องจากในช่วง 3 วันที่ผ่านมาในพื้นที่บ้านแม่สามแลบ อ.สบเมย ได้เกิดฝนตกลงมาอย่างหนักติดต่อกัน ระดับน้ำแม่น้ำสาละวินซึ่งเป็นแม่น้ำกั้นพรหมแดนไทย-เมียนมา เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและไหลเชี่ยว ทำให้ตั้งแต่ช่วงเช้าของวันเดียวกันนี้ แม่น้ำสาละวิน ได้เพิ่มระดับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและเข้าท่วมบ้านเรือนราษฏร ร้านค้า อาคารสถานที่ราชการที่อยู่ริมฝั่งแม่น้ำสาละวิน ราษฏรในพื้นที่ต่างหวั่นวิตกว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่เหมือนเมื่อครั้งปี 2547 ที่ผ่านมาจึงได้ระดมกันขนย้ายสิ่งของที่มีค่า รวมที่หลับที่นอนเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้หลายหมู่บ้านในพื้นที่ตำบลแม่สามแลบ แม่น้ำสาละวินหนุนขึ้นอย่างรวดเร็วและท่วมถนนสายหลัก สูง 1 เมตร บริเวณเส้นทางระหว่าง บ้านแม่สามแลบ-บ้านสิวาเดอ หมู่ที่ 3 ตำบลแม่สามแลบ อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน รวมถึงบ้านเรือนประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ รวมถึงอาคารสถานที่ราชการบางส่วน เบื้องต้นรถจักรยานยนต์ ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ ทางหน่วยได้เตรียมพร้อมให้ความช่วยเหลือราษฎรและจะติดตามสถานอย่างใกล้ชิด

ว่าที่ร้อยตรี ณรงค์ชัย จินดาพันธ์ นายอำเภอขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า จากกรณีทางหลวงหมายเลข 1263 อ.ขุนยวม จ.แม่ฮ่องสอน ไปยัง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ตอน ขุนยวม-ปางอุ๋ง ระหว่าง กม.18+650 ต.แม่ยวมน้อย อ.ขุนยวม การจราจรไม่สามารถสัญจรผ่านไปมาได้ เนื่องจากถนนทรุดตัว เจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงขุนยวมพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ศูนย์สร้างสะพานฮอด จ.เชียงใหม่ ได้เร่งเข้าดำเนินการนำสะพานแบลิ่งมาวางเพื่อให้ยานพาหนะผ่านได้ ขณะนี้หมวดทางหลวงขุนยวมและศูนย์สร้างสะพานฮอด ได้วางสะพานแบริ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถผ่านถนนสายขุนยวม – ปางอุ๋ง (ทางหลวงหมายเลข 1263) บริเวณกม.18+650 ได้โดยจำกัดน้ำหนักรถยนต์ไม่เกิน 10 ตัน

อ.เฉลิมชัย นำทีมเปิดบ้านศิลปินเชียงราย ส่งเสริมผลงานทางศิลปะวัฒนธรรมประเพณีและการท่องเที่ยว

ที่ห้องประชุมบุษราคัม โรงแรมไดมอนด์ปาร์คอินน์เชียงรายรีสอร์ท จ.เชียงราย นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย นางจิตรา สิทธนานุวัฒน์ วัฒนธรรมจังหวัดเชียงราย อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ศิลปินแห่งชาติชาวเชียงราย อาจารย์สุวิทย์ ใจป้อม นายกสมาคมขัวศิลปะเชียงราย ร่วมกันแถลงข่าว “เปิดบ้านศิลปิน” โดยมีศิลปินชาวเชียงราย และผู้ที่เกี่ยวข้องเข้า ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวทางสมาคมขัวศิลปะเชียงรายได้คัดเลือกบ้านของศิลปินใน จ.เชียงราย ได้จำนวน 10 หลัง ที่จะเปิดให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวได้เยี่ยมชมเพื่อส่งเสริมผลงานทางศิลปะ วัฒนธรรมประเพณีและการท่องเที่ยว

โดยกำหนดเปิดเส้นท่องเที่ยวตามบ้านศิลปินตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.63 โดยมีเส้นทาง ตามถนนสาย อ.ขุนตาล-เทิง เพื่อชมบ้านศิลปินนิติพล เลาย้าง อ.ขุนตาล ศิลปินศัจกร แก้วกุลา อ.เทิง และศิลปินมานิตย์ กันทะสัก ต.ห้วยสัก อ.เมืองเชียงราย ส่วนวันที่ 2 ก.ย.ไปยัง อ.พาน เพื่อชมบ้านศิลปินกำพล มะโนใจ ศิลปินขวัญ กันทะบุตร และศิลปินสราวุฒิ คำมูลชัย ผู้ปั้นอนุสาวรีย์นาวาตรีสมาน กุนัน หรือจ่าแซม วีระบุรุษถ้ำหลวง และวันที่ 3 ก.ย.เริ่มจากที่ อ.เมือง จ.เชียงราย โดยมีการจัดให้ชมบ้านศิลปินแก้วฟ้า เกสรศุกร์ อ.เวียงชัย ศิลปินสุรยัน วงศ์โยธา และศิลปินดิษณ์กร สุทธสม อ.เมืองเชียงราย รวมจำนวนทั้งหมด 10 หลัง

นายประจญ ปรัชญ์สกุล กล่าวว่ากระทรวงวัฒนธรรมได้เลือกให้ จ.เชียงราย เป็นเมืองแห่งศิลปะ 1 ใน 3 จังหวัดทั่วประเทศไทยคือเชียงราย นครราชสีมา และกระบี่ เนื่องจากเชียงราย มีศิลปินกว่า 400 คน ซึ่งคาดจะมากสุดในประเทศ จึงได้มีการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริม โดยนอกจากบ้านศิลปินดังกล่าวที่พยายามเปิดตัวเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้ไปเที่ยวชมนอกเหนือจากสถานที่ท่องเที่ยวเดิมที่มีอยู่แล้ว ทางจังหวัดเชียงรายได้รับงบประมาณ 15 ล้านบาท เพื่อสร้างสถาปัตยกรรมทางศิลปะในปี 2564 ออกแบบโดยศิลปินขัวศิละเชียงรายเพื่อให้เป็นอัตลักษณ์ของความเป็นซิตี้ ออฟ อาร์ต หรือเมืองแห่งศิลปะ และจากนี้จะขยายไปยัง 18 อำเภอและส่วนราชการต่างๆ ด้วย นางจิตรา สิทธนานุวัฒน์ กล่าวว่า จ.เชียงราย ได้เปิดบ้านศิลปินที่ได้รับการคัดเลือกเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมได้ไปแล้วจำนวน 60 หลัง โดยปี 2562 ได้เปิดจำนวน 30 หลัง สำหรับปี 2563 นี้ได้รับงบประมาณจากทางจังหวัด 1 ล้านบาทเพื่อดำเนินการเปิดเพิ่มเติมอีก 10 หลัง ซึ่งกิจกรรมนั้นนอกจากจะเปิดเส้นทางไปตามบ้านหลังต่างๆ ดังกล่าวแล้ว ยังมีกิจกรรม “ข่วงศิลปินพื้นบ้านล้านนา” ณ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงราย วันที่ 5-6 ก.ย.นี้เพื่อถ่ายทอดและสาธิตภูมิปัญญารวมทั้งมีกิจกรรมการมีส่วนร่วมหรือเวิร์คช็อปอีกด้วย

 

ด้านอาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ กล่าวว่า ปัจจุบันเหล่าศิลปินได้มีการพัฒนาผลงานทางศิลปะที่บ้านหรือสตูดิดของตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ และขยายไปยังหลายๆ จังหวัด โดยที่ จ.พะเยา ก็ได้เปิดบ้านศิลปินหลังแรกไปแล้วโดยมี จ.เชียงราย เป็นต้นแบบ ซึ่งบ้านศิลปินดังกล่าวสามารถกระตุ้นเศรษฐกิจภาคการท่องเที่ยวได้และยิ่งในปัจจุบันส่วนราชการ นักธุรกิจ พ่อค้า ประชาชน คนทั่วไปต่างสนใจศิลปะกันมากขึ้นจึงมีการนำศิลปะมาพัฒนาเพื่อส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ ตัวอย่างล่าสุดที่ จ.พะเยา ได้มีผู้ว่าราชการจังหวัด องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นักการเมืองที่อยู่เบื้องหลัง ได้ฟื้นโครงการเดิมที่จะสร้างผลงานทางศิลปะบริเวณกว๊านพะเยาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้ไปพักแทนที่จะเป็นเพียงเมืองผ่าน และได้ขอให้ผมได้ออกแบบผลงานทางศิลปะขนาดใหญ่ไว้บริเวณกว๊านพะเยา ซึ่งก็ออกแบบให้โดยใช้งบประมาณ 500 ล้านบาท ปัจจุบัน จ.พะเยา มีอยู่แล้วจำนวน 100 ล้านบาทจึงอยู่ระหว่างผลักดันและคาดว่าในอนาคต จ.พะเยา จะมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากขึ้นแน่นอน

 

“สำหรับ จ.เชียงราย เรามีผลงานทางศิลปะต่างๆ กระจายทั่วไปจังหวัดมากมาย เช่น วัดร่องขุ่น บ้านดำ ไร่เชิญตะวัน และยังมีบ้านศิลปินอีกกว่า 60-70 หลัง ดังนั้นจึงมีโครงการจะคัดสรรให้เหลือเพียง 20 หลังเพื่อรับรางวัลจากผู้ว่าราชการจังหวัดให้เป็นสุดยอดบ้านศิลปิน วัตถุประสงค์เพื่อให้หมาะสมกับการส่งเสริมการตลาดกรณีดึงดูดนักท่องเที่ยว ซึ่งจะกระตุ้นให้ศิลปินได้พัฒนาบ้านของตัวเองอยู่เสมอ โดยจะใช้อาคารขัวศิลปะเชียงรายแห่งใหม่ซึ่งจะย้ายไปยังวัดร่องขุ่นในอีก 3 ปีข้างหน้าในการประชาสัมพันธ์บ้านศิลปินแต่ละคน เพราะวัดร่องขุ่นมีนักท่องเที่ยวไปเยือนจำนวนมากอยู่แล้วจึงสามารถดึงดูดผู้ชื่นชอบให้ไปเยือนบ้านศิลปินตามเส้นทางต่างๆได้สะดวก ซึ่งโครงการจะเริ่มในเดือน พ.ย.2563 นี้และบ้านที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับเข็มกลัดจากผู้ว่าราชการจังหวัด ส่วนในอนาคตก็จะมีการคัดสรรและมอบรางวัลเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ เพื่อให้มีการพัฒนาบ้านศิลปินตลอดไป” อาจารย์เฉลิมชัยกล่าวในที่สุด