นายกรัฐมนตรีเป็นประธานปลูกป่าและป้องกันไฟป่า อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อำเภอแตง จังหวัดเชียงใหม่

ที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง-น้ำพุเจ็ดสี อำเภอแตง จังหวัดเชียงใหม่ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิด โครงการปลูกป่า และป้องกันไฟป่า โดยนำคณะรัฐมนตรี ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ เข้าร่วมกับพล.ร.อ.ปวิตร รุจิเทศ ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสา เจ้าหน้าที่ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนจิตอาสา จำนวนกว่า 1,000 คน ร่วมถวายพระพร และกล่าวคำปฏิญาณ “เราทำความดีเพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์” จากนั้นร่วมปลูกต้นไม้ เพื่อแสดงความจงรักภักดีและน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินี ที่ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อประโยชน์สุขแก่ประชาชน รวมทั้งเพื่อเป็นการฟื้นฟูดิน น้ำ ป่า สิ่งแวดล้อม ให้กลับสู่ระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์อย่างยั่งยืน


โครงการปลูกป่าและป้องกันไฟป่า มีเป้าหมายดำเนินงานทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 2.68 ล้านไร่ โดยระยะที่ 1 ซึ่งเป็นระยะเร่งด่วน จะมีจังหวัดที่ต้องดำเนินการเร่งด่วน 6 จังหวัด ได้แก่จังหวัดเชียงใหม่ ตาก น่าน นครราชสีมา ชัยภูมิ และนครศรีธรรมราช ซึ่งต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 28 ก.ค. 2563 โดยปลูกไม่ต่ำกว่า 1,010 ไร่ และทำฝายเพิ่มความชุ่มชื้นของระบบนิเวศ พื้นที่ละไม่ต่ำกว่า 10 แห่ง รวมจำนวนไม่ต่ำกว่า 70 แห่ง ส่วนจังหวัดอื่นนอกเหนือจากจังหวัดเร่งด่วน อีก 71 จังหวัดรวมกรุงเทพมหานคร ปลูกป่าหรือปลูกต้นไม้เพิ่มพื้นที่สีเขียว เฉลี่ยจังหวัดละ 100 ไร่ รวมทั้งประเทศ 7,100 ไร่ จากนั้นระยะที่ 2 และ 3 ดำเนินการปี พ.ศ.2563-2570 จะเป็นการฟื้นฟูป่า และเพิ่มพื้นที่สีเขียวนอกเขตป่า

สำหรับกล้าไม้ที่นำมาปลูกในพื้นที่อุทยานแห่งชาติน้ำตกบัวตอง น้ำพุเจ็ดสี ในครั้งนี้ประกอบด้วย บุนนาค จำปา สัก ประดู่ป่า แคหางค่าง คำมอกหลวง พะยอม ตะเคียนทอง รวงผึ้ง และรัง โดยนายกรัฐมนตรีปลูก “ต้นสัก” ซึ่งต้นสักที่นายกรัฐมนตรีปลูกนี้ได้มาจากแม่พันธุ์เสาชิงช้า โดยสักต้นดังกล่าว ตั้งอยู่บริเวณหน่วยประสานงานป้องกันและรักษาป่า (นปป.) จังหวัดแพร่ หมู่ที่ 2 ตำบลไทรย้อย อำเภอเด่นชัย โดยต้นสักนี้ มีขนาดเส้นรอบวงบริเวณโคนต้น 360 เซนติเมตร เส้นผ่านศูนย์กลาง 114 เซนติเมตร ความสูงจากโคนถึงยอดไม้มากกว่า 40 เมตร อยู่ในพื้นที่ราชพัสดุในการดูแลของธนารักษ์พื้นที่แพร่ และกทม. นำมารักษาสายพันธุ์โดยการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อจากตายอดแล้ว จัดส่งให้ศูนย์เพาะชำกล้าไม้เชียงใหม่ขยายพันธุ์ต่อ และทำการcutting ขยายพันธุ์เพื่อจัดเตรียมไว้แจกจ่ายให้ประชาชนต่อไป

“เราเที่ยวด้วยกัน” กับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส

บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ สายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ร่วมสนับสนุนนโยบายของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ชวนคนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศในโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” รับค่าบัตรโดยสารคืน 40% ไม่เกิน1,000 บาท ต่อคนต่อ 1 ที่นั่ง (จำนวนจำกัด 2 ล้านสิทธิ์ สำหรับบัตรโดยสารเครื่องบินตลอดโครงการฯ) โดยโครงการ “เราเที่ยวด้วยกัน” ได้เปิดลงทะเบียนเพื่อใช้สิทธิ์รับเงินคืนค่าบัตรโดยสาร ผ่าน www.เราเที่ยวด้วยกัน.com ตั้งเเต่เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม ที่ผ่านมา โดยผู้ที่สนใจเข้าร่วมโครงการฯ สามารถเริ่มทำการสำรองที่นั่งได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 และสามารถเดินทางได้ตั้งแต่วันนี้ – 31 ตุลาคม 2563 สิทธิ์มีจำนวนจำกัด เดินทางก่อนมีสิทธิ์รับเงินคืนได้ก่อน ตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องเงื่อนไขการรับสิทธิ์และการร่วมโครงการฯ ได้ที่ www.เราเที่ยวด้วยกัน.com หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลโครงการฯ ได้ที่หมายเลข 02-111-1144

ปัจจุบันสายการบินบางกอกแอร์เวย์สเปิดให้บริการเส้นทางบินภายในประเทศ จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ เส้นทาง(ไป-กลับ) กรุงเทพฯ-สุโขทัย เส้นทาง(ไป-กลับ) กรุงเทพฯ-ลำปาง เส้นทาง(ไป-กลับ) กรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เส้นทาง (ไป-กลับ) กรุงเทพฯ-ภูเก็ต เส้นทาง(ไป-กลับ) กรุงเทพฯ-สมุย และเส้นทาง (ไป-กลับ) สมุย-ภูเก็ต สำรองที่นั่งและดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทางเว็บไซต์ www.bangkokair.com หรือติดต่อศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า (Call Center) โทร 1771 และ 02-270-6699 ในเวลาทำการ

อบต.แม่ลาหลวง ผุดโครงการ “Time Bank ธนาคารเวลา” ธนาคารที่เชื่อมโยงการช่วยเหลือแบ่งปันรองรับสังคมสูงวัย แห่งแรกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ที่องค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาหลวง อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน นายศรแก้ว ประจักษ์เมธี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่ลาหลวง เป็นประธานเปิด ธนาคารเวลา หรือ Time Bank ธนาคารที่เชื่อมโยงการช่วยเหลือแบ่งปันของสังคมผู้สูงอายุในพื้นที่ โดย นายสุรสิทธิ์ พูลวานิช รักษาการประธานชมรมผู้สูงอายุตำบลแม่ลาหลวง พร้อมเจ้าหน้าที่และผู้สูงอายุ เดินทางมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ พร้อมจัดนิทรรศการผลงานของกลุ่มผู้สูงอายุ ต.แม่ลาหลวง อาทิเช่น กลุ่มทำไม้กวาด จักรสาน แปรรูปอาหารไข่เค็ม เป็นต้น

นางสาวสิทธิอาพร เชยนาค พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งได้ให้เกียรติมาร่วมพิธีเปิดดังกล่าว เปิดเผย เพิ่มเติมว่า ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบ ประกอบกับผู้สูงอายุในพื้นที่ตำบลแม่ลาหลวง อำเภอแม่ลาน้อย มีจำนวนมากถึง 800 คน จึงจัดตั้งธนาคารเวลา (Time Bank) ขึ้นในพื้นที่ ตามแนวคิดของกรมกิจการผู้สูงอายุ เพื่อเป็นกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมให้ชุมชนดูแลซึ่งกันและกัน ด้วยการแลกเปลี่ยนทักษะ ประสบการณ์บริการ และสามารถสะสมเวลาขณะทำกิจกรรมได้ เสมือนการออมเงินในบัญชี โดยมีการจัดเก็บบันทึกทั้งในสมุดบัญชีและในฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ

เมื่อยามที่จำเป็นที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือก็สามารถเบิกเวลามาใช้ได้ เพื่อสร้างหลักประกันความมั่นคงของชีวิต นำไปสู่การสร้างเครือข่ายทางสังคมที่เข้มแข็งในการดูแลซึ่งกันและกัน ทั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับการจัดบริการและสวัสดิการทางสังคมในการคุ้มครอง ส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุและผู้พิการแบบครบวงจร สามารถตอบสนองปัญหาและความต้องการของผู้สูงอายุและชุมชน รวมทั้ง ส่งเสริมให้คนในทุกกลุ่มวัยในสังคม เข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลผู้สูงอายุและผู้พิการ แก้ไขปัญหาผู้สูงอายุและผู้พิการที่ต้องการได้รับความช่วยเหลือ เพื่อสร้างคุณค่าของการเป็นผู้ให้และผู้รับต่อไป

เทศบาลนครลำปาง หน่วยงานสาธารณสุข จัดโครงการโรงพยาบาลใกล้บ้าน บริการใกล้ใจ ออกให้บริการผู้ป่วยเรื้อรังแบบ New Normal VDO CALL คุยกับหมอ ลดขั้นตอนรักษาสะดวก รวดเร็ว รับยาได้ทันทีโดยไม่ต้องไป ร.พ.

ที่ศูนย์บริการวัดพระแก้วหัวข่วง ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง ได้มีการจัดโครงการโรงพยาบาลใกล้บ้าน บริการใกล้ใจ ให้บริการแบบ New normal โดยมีเจ้าหน้าที่พยาบาล จากโรงพยาบาลลำปาง สาขา ศูนย์สุขภาพชุมชนเมืองม่อนกระทิง และ อสม. เทศบาลนครลำปาง ออกให้บริการประชาชนในเขตเทศบาลนครลำปางในรูปแบบของคลินิกครอบครัว

โดยโครงการดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากกองทุนหลักประกันสุขภาพ เทศบาลนครลำปาง โดยเน้นการให้บริการผู้ป่วยเรื้อรังที่มีอาการคงที่ เพื่อให้สามารถรับยาได้อย่างต่อเนื่อง อาทิ โรคความดัน เบาหวาน ไขมันสูง ที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน และมีการนัดหมายกับหมอเป็นประจำ ให้มารับบริการใกล้บ้านแทนการไปโรงพยาบาล เพื่อเลี่ยงการรวมตัวกันของคนหมู่มากในช่วงที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การให้บริการครั้งนี้ได้นำเอาเทคโนโลยีมามาใช้ในการติดต่อสื่อสาร ให้ผู้ป่วยได้พูดคุยกับหมอโดยตรง ผ่านระบบวีดีโอคอล จากนั้นพยาบาลจะได้ดำเนินการจัดยา พร้อมทั้งอธิบายวิธีการใช้แก่ผู้ป่วย และนัดหมาย หรือให้คำปรึกษาผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ถือเป็นการลดขั้นตอนการทำงานให้สะดวก รวดเร็ว

พิธีไหว้ครูมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปีการศึกษา 2563

ณ ศาลาธรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดพิธีไหว้ครูมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประจำปีการศึกษา 2563 โดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ประธานในพิธี พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร คณาจารย์ ตลอดจนนักศึกษา ร่วมพิธี เพื่อสืบสานประเพณีอันดีงามที่ปฏิบัติสืบต่อกันมา และเป็นโอกาสที่ศิษย์จะได้แสดงความเคารพและความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ และเป็นวันที่นักศึกษาใหม่จะได้ร่วมกันปฏิญาณตนต่อครูอาจารย์ เพื่อจะเป็นศิษย์ที่ดี รับการถ่ายทอดความรู้ด้วยความวิริยะอุตสาหะ มุ่งสู่ความสำเร็จในการศึกษา

อบต.แม่คะควน รับมือไข้เลือดออก อบรม อสม.ทำ“สเปรย์ไล่ยุง”อย่างง่าย 500 ขวด ใช้ในครัวเรือน สรรพคุณ 3 in 1 ทั้งไล่ยุง ป้องกันโควิด แก้วิงเวียนศีรษะ

นายสุรศักดิ์ ใจคำ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่าสถานการณ์ไข้เลือดออกในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนเกิดการระบาดเป็นบริเวณกว้าง และ บ้านผาผ่า ต.แม่คะตวน เป็นพื้นที่หนึ่งที่มีการแพร่ระบาดของโรคเป็นบริเวณกว้างต่อเนื่อง และมีแนวโน้มของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ สำหรับโรคไข้เลือดออกมียุงลายเป็นพาหะนำโรค และ วิธีที่ดีที่สุดในการควบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก คือ การป้องกันไม่ให้ยุงกัด และ กำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน จึงเล็งเห็นความสำคัญของการป้องกัน นอกเหนือจากการฉีดพ่นละอองในการทำลายแหล่งเพาะพันธุ์ยุงลายแล้ว การเสริมสร้างความรู้ ด้านการทำผลิตภัณฑ์ป้องกันก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ทาง องค์การบริหารส่วนตำบลแม่คะควนดำเนินการ ให้ความรู้แก่ อสม.ในพื้นที่ 70 คน ทำสเปรย์ฉีดพ่นไล่ยุงอย่างง่าย เพื่อให้ชาวบ้านมีใช้ในครัวเรือน

ด้านว่าที่ร้อยตรีอัสชล บุญมาคำ นักวิชาการสาธารณสุขชำนาญการ ผู้ช่วยสาธารณสุขอำเภอสบเมย ที่ได้เดินทางมาให้ความรู้ ขั้นตอนในการทำสเปรย์ไล่ยุง กล่าวเพิ่มเติมว่า สมุนไพรสเปรย์ไล่ยุง ที่จัดอบรมในครั้งนี้ เป็น สเปรย์สมุนไพร 3 in 1 ครอบคลุมทั้งการป้องกันในการพ่นไล่ยุง ป้องกันการเชื้อโรคโควิด-19 และ ยังสามารถแก้การวิงเวียนศีรษะอีกด้วย เป็นการนำวัตถุดิบสมุนไพรพื้นที่บ้านที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาประกอบการทำ อาทิชเช่น ตะไคร้หอม 100 กรัม ผิวมะกรูด 100 กรัม ใบมะกรูด 50 กรัม การบูร 50 กรัม กานพลู 20 กรัม และ แอลกอฮอล์ 95% 1 ลิตร เทรวมใส่โหลแก้ว ปิดฝาให้สนิท หมักไว้ 7 วัน ก็จะได้ สเปรย์ตะไคร้หอมกันยุง เพื่อป้องกันความปลอดภัย ทั้งนี้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงกับการถูกยุงกัดหรือมีการระบาดของไข้เลือดออก ขอแนะนำให้ นอนกางมุ้ง สวมเสื้อปกปิดร่างกายให้มิดชิด และควรฉีดสเปรย์ตะไคร้หอมไล่ยุงทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ยุงกัดและป้องกันโรคที่จะมากับยุงในช่วงฤดูฝนนี้

แม่ฮ่องสอนไข้เลือกออกระบาดหนักสถิติสูงแชมป์ภาคเหนือตอนบนแล้ว ผวจ.สั่งทุกอำเภอเป้องกันเข้ม สบเมย เปิด WAR ROOM วาง 3 มาตรการเชิงรุก

ที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านผาผ่า อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน นายผะอบ บินสะอาด นายอำเภอสบเมย เป็นประธานในการประชุมแนวทางมาตรการ ควบบคุมการระบาดของโรคไข้เลือดออก โดยมีองค์กรบริหารส่วนตำบลแม่คะตวน ผู้อำนวยการโรงเรียน คณะกรรมการหมู่บ้าน อสม.และประชาชนในพื้นที่ตำบล แม่คะตวนเข้าร่วมการควบคุการระบาดของโรคไข้เลือดออกของอำเภอสบเมย สำหรับ 3 มาตรการเข้มต้านโรคไข้เลือดออก ระยะเร่งด่วน ฆ่ายุงลายตัวแก่ โดยระดมกำลังพ่นหมอกควันทั้งหมู่บ้านผาผ่า ทุกหลังคาเรือน ตั้งแต่วันพฤหัสบดี ที่ 23 กรกฎาคม และวันที่ 1 /2 /5 /10 สิงหาคม 2563 ตามวงจรยุง รวมไปถึงให้อบต.จัดเตรียมสเปรย์กำจัดยุงลาย รองรับในกรณีได้รับแจ้งจากโรงพยาบาลว่า มีผู้ป่วย อสม.ในพื้นที่จะรีบเข้าไปพ่นสเปรย์กำจัดยุง ที่บ้านผู้ป่วยรายใหม่ทันที ภายใน 3-6 ชั่วโมง ระยะกลาง ให้ อสม. สำรวจลูกนำยงลายทุกวันพฤหัสบดีของสัปดาห์ และระดมเจ้าหน้าที่จากทุกรพ.สต. ทั้งอำเภอสบเมย เจ้าหน้าที่ 1 คน ต่อ 5 หลังคาเรือน ลงพื้นที่เข้าตรวจลูกน้ำยุงลายอย่างละเอียดครอบคลุมทั้งพื้นที่ทุกวันศุกร์

ระยะยาว ให้มีการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับไข้เลือดออก ทุกวัน สองเวลาเช้า-เย็น ผ่านทางประกาศเสียงตามสาย พร้อมจัดศูนย์ข้อมูลไข้เลือดออก แจ้งยอดผู้ป่วยสะสม การดูแลตัวเอง ไว้ใจกลางหมู่บ้าน โดยสาธารณสุขจะอัพเดทข้อมูลให้ประชาชนทราบทุกวัน มาตรการดังกล่าว ทุกหลังคาเรือนต้องถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด ในที่ประชุมยังมีการวางมาตรการเพิ่มเติม กรณีการ “ปรับเงิน” หากไม่ได้รับความร่วมมือ ทั้งนี้ให้เป็นไปตามมติของหมู่บ้าน

สำหรับ สถานการณ์ไข้เลือดออกจังหวัดแม่ฮ่องสอน ระบาดไม่หยุด ยอดพุงสูง และ มีผู้เสียชีวิตแล้ว 1 ราย เป็นชาย อายุ 61 ปี อยู่ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งระดมกำชับ ให้ เข้มงวดการป้องกันและการแพร่ระบาดของลูกน้ำยุงลาย สาเหตุของไข้เลือดออก โดย สถานการณ์ล่าสุด เมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม ที่ผ่านมา จังวัด แม่ฮ่องสอน พบผู้ป่วยไข้เลือดออก 576 ราย เสียชีวิต 1 ราย พบการแพร่ระบาดมากที่สุด ได้แก่ อำเภอแม่สะเรียง พบผู้ป่วย 411 ราย อำเภอเมือง 95 ราย อำเภอสบเมย 41 ราย อำเภอแม่ลาน้อย 19 ราย อำเภอขุนยวม 7 ราย อำเภอปาย 2 ราย และ ปางมะผ้า 1 ราย สูงเป็นลำดับ 1 ของ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน

จัดหางานลำพูน เตือนระวังตกเป็นเหยื่อหลอกไปทำงานต่างประเทศแฉมีแก๊งมิจฉาชีพอาละวาดหนักช่วงนี้

ที่ห้องแกรนด์บอลรูม กัซซัน พาโนราม่า กอล์ฟคลับ ลำพูน ตำบลมะเขือแจ้ อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
นางฐิติมา นราพงศ์ จัดหางานจังหวัดลำพูน เป็นประธานเปิดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความมั่นคงจังหวัดลำพูน กิจกรรมเพิ่มประสิทธิภาพการป้องกันการถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจ ในกฎหมายกับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนตลอดจน ส่งเสริมสร้างภูมิคุ้มกันทางสังคม

นางฐิติมา นราพงศ์ จัดหางานจังหวัดลำพูน กล่าวว่า กรมการจัดหางานได้แจ้งมาว่าขณะนี้พบพฤติกรรมการหลอกลวงคนหางานไปทำงานต่างประทศ โดยเพาะการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการโฆษณาจัดหางาน และอาศัยความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ชักชวนคนหาต่างประทศ ให้จ่ายเงินเกินจริง และอ้างว่าสามารถพาไปทำงานได้ รวมทั้ง อ้างว่าทำงานในหน่วยงานของรัฐหรือเป็นบริษัทจัดหางานที่ได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เกี่ยวกับเรื่องนี้ กรมการจัดหางานไม่ได้นิ่งนอนใจ เร่งสร้างการรับรู้แก่ประชาชนและคนหางานที่ต้องการเดินทางไปทำงนในต่างประเทศ โดยเร่งเตือนภัยรูปแบบกลวิธีการหลอกลวงของสาย-นายหน้า และซ่องทางแจ้งเบาะแสร้องเรียน

ทั้งนี้ จัดหางานจังหวัดลำพูน จึงได้จัดโครงการดังกล่าวขึ้น เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้เข้าใจ โดยจะมีการบรรยายในหัวข้อ “พระราชบัญญัติจัดหางานและคุ้มครองคนหางาน ที่ประชาชนควรรู้ วิธีการเดินทางไปทำงานต่างประเทศอย่างถูกต้อง และการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานในประเทศต่างๆ รวมทั้ง การป้องกันการถูกหลอกลวงไปทำงานต่างประเทศ” แก่ผู้เข้าร่วม ซึ่งประกอบด้วย ตัวแทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ประชาชนและเครีอข่ายต่างๆ

รู้ไหม”เชียงใหม่”สูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการช่วงโควิด 19 ระบาดเดือนละ 1 หมื่นล้านบาท

แม้ว่าทางรัฐบาลจะได้มีการผ่อนปรนมาตรการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโวิด 19 บ้างแล้ว แต่ก็ยังคงส่งผลกระทบกับการท่องเที่ยวอยู่เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะที่จะงหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นเมืองที่นักท่องเที่ยวต่างให้ความสนใจเดินทางมาเที่ยว กลับพบว่าในช่วงนี้ บรรยากาศเป็นไปด้วยความซบเซา ไม่คึกคักเหมือนอดีตที่ผ่านมา

นายวโรดม ปิฏกานนท์ ประธานหอการค้าจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า หลังจากที่มีการรแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลทำให้จังหวัดเชียงใหม่ได้รับผลกระทบมากกว่าหลายจังหวัดเพราะเศรษฐกิจพึ่งพาภาคการท่องเที่ยวและบริการเป็นหลัก เนื่องจากที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่มีรายได้จากการท่องเที่ยวและบริการมากถึง ร้อยละ 65 หากประเมินจากผลิตภัณฑ์มวลรวม(GDP)ของจังหวัดเชียงใหม่ที่สร้างเม็ดเงินปีละประมาณ2.3แสนล้านบาท ดังนั้นเฉพาะภาคการท่องเที่ยวและบริการอย่างเดียวจะสร้างรายได้ประมาณปีละ1.2แสนล้านบาท ฉะนั้นหากนับตั้งแต่ มี.ค.63เป็นต้นมา จังหวัดเชียงใหม่สูญเสียรายได้ส่วนนี้ไปแล้วประมาณเดือนละ1หมื่นล้านบาท

ทั้งนี้จากผลกระทบที่เกิดขึ้นทำให้ผู้ประกอบการได้รับความเดือดร้อนอย่างมาก เนื่องจากรายได้ขาดหายไปโดยที่หลายรายรายได้แทบจะเป็นศูนย์ ขณะที่ภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ ยังมีอยู่ ซึ่งความช่วยเหลือที่ต้องการมากที่สุดคือทุนหมุนเวียนที่อยากให้มีมาตรการสนับสนุนและส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าถึงได้โดยไม่ยุ่งยาก และอยากให้มีการขยายมาตรการพักชำระหนี้ที่จะสิ้นสุดในเดือน ก.ย.63 ต่อไปอีกอย่างน้อย6เดือน เพื่อประคับประคองให้ผู้ประกอบการยังอยู่ได้ โดยยอมรับว่างบประมาณ4แสนล้านบาทเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้น น่าเป็นปัจจัยหลักและเป็นความหวังในการที่จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศและจังหวัดเชียงใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะหากนำมาใช้แก้ไขปัญหาอย่างถูกจุด

 ระดมกำลังช่วยชาวบ้านพื้นที่ อบต.สระ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา หลังน้ำป่าซัดหมู่บ้านถนน-สะพานขาดหลายแห่ง

สืบเนื่องจากคืนวันที่ 20 กรกฎาคม 2563 ที่ผ่านมา ได้มีฝนตกหนักในพื้นที่ อ.เชียงม่วน จ.พะเยา ส่งผลให้เกิดน้ำป่าไหลหลากเข้าพื้นท่วมที่บ้านนาบัว หมู่ 9 ต.สระ อ.เชียงม่วน โดยหลากท่วมอยู่นานกว่า 2 ชั่วโมง จนน้ำป่าก็เริ่มแห้งลง ทิ้งซากโคลน ขยะ ตามทางน้ำ สะพานเป็นแห่ง ๆ ซึ่งทาง อบต.สระ อ.เชียงม่วน ระดมกำลังลงพื้นที่ช่วยชาวบ้านที่ถูกน้ำป่าพาโคลนมาซัดภายในบ้านหลายหลัง

นางมัลลิกา สืบแสน ประชาชน ชาวบ้านนาบัว ม.9 ต.สระ อ.เชียงม่วน เปิดเผยว่าเวลาประมาณ 12.00 น. ได้เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลากเข้าท่วมพื้นที่บ้านนาบัวหมู่ 9 ต.สระ ซึ่งสืบเนื่องจากมีฝนตกหนักตั้งแต่ช่วงคืนทำให้น้ำป่าที่มาซัดท่วมหมู่บ้านนาบัว โดยพัดพาดินโคลนมาถล่มประมาณ 2 ชั่วโมง หลังจากนั้นเหตุการณ์ก็กลับสู่ภาวะปกติ ทั้งนี้น้ำป่าที่ไหลหลากก็แห้งลง เหลือโคลนเป็นแห่ง ๆ นอกจากนี้แรงของน้ำป่าทำให้ถนนชำรุดบางแห่งโดยเป็นถนนหน้าศูนย์เด็กเล็กบ้านนาบัว แต่ทั้งนี้ก็ไม่มีความเสียหายเกิดขึ้นมากนัก ทาง อบต.สระ และเจ้าหน้าที่ปกครอง อ.เชียงม่วน ได้ลงมาช่วยเหลือพวกตนและเก็บเศษกิ่งไม้ ขยะที่ติดตามเสาสะพาน ขณะที่คนอื่น ๆ ก็ทำความสะอาดบ้านของตัวเอง

ด้านนางนฤมล บัวชุม สจ.เขต อ.ชียงม่วน ได้กล่าวว่า หลังจากที่ตนทราบเรื่องก็ได้รีบประสานไปยังนายสังคม สืบแสน นายก อบต.สระให้ลงพื้นที่ช่วยเหลือชาวบ้านนาบัว ม.9 ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมในครั้งนี้ โดยตนเองก็ลงพื้นที่ช่วยเหลือเช่นกัน ทั้งนี้หลังจากทำการสำรวจแล้วนั้นปรากฏว่าบ้านเรือนของชาวบ้านส่วนใหญ่ไม่ได้เสียหายมากนัก พบเพียงดินโคลนรวมทั้งเศษขยะกิ่งไม้ที่ถูกพัดมากองไว้ตามจุดต่าง ๆ ภายในหมู่บ้าน ซึ่งตนเองก็ได้ให้ทางรถน้ำของทาง อบต.สระฉีดชะล้างบ้างแล้ว นอกจากนี้พบว่าถนนบางสายภายในหมู่บ้านขาดจึงได้ประสานทางนายก อบต.สระให้เร่งซ่อมแซมพื้นที่ที่ชำรุดให้กลับมาใช้การได้อีกครั้ง ส่วนน้ำป่าที่ไหลหลากเข้าท่วมในครั้งนี้ส่วนใหญ่จะเป็นน้ำป่าที่ไหลมาจากต้นน้ำทางภูเขา นอกจากนี้พบว่าภูเขาใน อ.เชียงม่วน บางแห่งก็เป็นภูเขาหัวโล้นจึงทำให้ไม่มีต้นไม้ซับหน้าดินไว้ เมื่อเวลาฝนตกหนัก ๆ น้ำฝนที่ตกลงมาก็ซัดเอาหน้าดินลงไปจนเป็นน้ำโคลนไหลท่วมเข้าหมู่บ้านดังกล่าว