สะเมิงบวชป่า ดึงพลังมวลชนร่วมอนุรักษ์ ลดการเผาแก้ปัญหาป่าเสื่อมโทรม

24 มิ.ย. 63 ที่บ้านหัวดง หมู่ที่ 10 ต.สะเมิงใต้ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ นายชัยณรงค์ นันตาสาย นายอำเภอสะเมิง ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการจิตอาสาพระราชทานอำเภอสะเมิง ได้เป็นประธานเปิดกิจกรรมตามโครงการ “รวมใจไทย ปลูกต้นไม้เพื่อแผ่นดิน” ซึ่งเป็นกิจกรรมที่เกิดจากพลังและความร่วมมือของ คณะสงฆ์ตำบลสะเมิง หน่วยงานสังกัดทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ หัวหน้าส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สถานศึกษาในพื้นที่ตำบลสะเมิงเหนือ ชมรมกำนัน ผู้ใหญ่บ้านฯ ตำบลสะเมิงใต้ นักเรียนโรงเรียนสะเมิง จิตอาสาพระราชทานและประชาชนจิตอาสา ต.สะเมิงเหนือ อ.สะเมิง จ.เชียงใหม่ กิจกรรมประกอบด้วย การปลูกต้นไม้ “ประชาอาสาฟื้นฟูพื้นที่ถูกไฟไหม้” และกิจกรรมการบวชป่า

กิจกรรมนี้เป็นความร่วมมือของทุกภาคส่วนในพื้นที่ โดยทางด้านหน่วยป้องกันและพัฒนาป่าไม้สะเมิง สังกัดกรมป่าไม้ ซึ่งเป็นโครงการปลูกครั้งที่ 5 แล้ว โดยสถานที่ปลูกแห่งนี้ ได้ยึดเอาต้นโพธิ์ ที่ขึ้นในป่า เป็นจุดที่ทำพิธี และมีต้นตองตึงยักษ์ขนาดสองคนโอบขึ้นอยู่ใกล้เคียงจึงนำมาเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชน

สืบเนื่องจากพื้นที่แห่งนี้ ในห้วงที่ผ่านมานั้น เกิดการบุกรุกแผ้วถาง เพื่อปลูกต้นกล้วย โดยทางเจ้าหน้าที่ได้ใช้กฎหมาย เพื่อยึดคืนพื้นที่ป่ากลับคืนมาแล้ว รวมกว่า 40 ไร่ ป้องกันไม่ให้เกิดการบุกรุกแผ้วถางอีก เพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้ ก็จะมีการบุกรุกเพิ่มเติม ซึ่งจะทำให้พื้นที่ป่าแห่งนี้ได้รับผลกระทบ กลายเป็นป่าเกิดการเสื่อมโทรมเสียหาย

 

และจุดที่ทำพิธีบวชป่าในวันนี้ อยู่ด้านบนของสถานที่สำคัญของอำเภอสะเมิง เรียกว่า “น้ำออกรู” เป็นที่เคารพของคนในพื้นที่ เพราะน้ำที่ออกมาจากรูพื้นดินนั้น ไม่เคยเหือดแห้ง ก็เชื่อว่าน้ำที่ไม่เคยแห้งหายไปเลยนั้น เพราะป่าไม้อุดมสมบูรณ์ แต่หากปล่อยไว้ อาจจะเกิดเกิดผลกระทบได้ ซึ่งน้ำออกรู ของอำเภอสะเมิง กลายเป็นแหล่งความเชื่อเหมือนบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์อีกด้วยโดยตั้งเป้าว่าจะมีการปลูกให้ครบ 20,000 ต้น ซึ่งปัจจุบัน 5 โครงการรวมถึงในวันนี้ด้วย ก็ได้ดำเนินการปลูกไปแล้ว 9,000 ต้น

 

พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอนจัดงาน “ กาดชุมชนแม่ฮ่องสอน สู้ภัยโควิด-19 กระตุ้นการค้า สร้างงาน สร้างรายได้ สร้างอาชีพ ครั้งที่ 2

นางสาวจุไรรัตน์ ศรีตระกูล พาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เปิดเผยว่า สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกับงานภาคีทีมเศรษฐกิจจังหวัดแม่ฮ่องสอน เตรียมจัดงาน “กาดชุมชนแม่ฮ่องสอน ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19” เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาด และการจำหน่ายสินค้าชุมชน ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่ ฯ และเพื่อเยียวยา บรรเทาทุกข์ให้กับพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ จากสถานการณ์ Covid -19

สำนักงานพาณิชย์จังหวัดแม่ฮ่องสอน จึงขอประชาสัมพันธ์เชิญชวน ร่วมอุดหนุนสินค้าชุมชน เช่น อาหาร สินค้าเกษตร สินค้าอาหารสด อาหารปรุงสำเร็จ สินค้าราคาประหยัด อาทิ ไข่ไก่ กระเทียม น้ำมันพืช น้ำตาลทราย บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป และปลากระป๋อง และการเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนสินค้าผลไม้จากจังหวัดระยองและสินค้าอาหารแปรรูปจากจังหวัดระนอง ในงาน “กาดชุมชนแม่ฮ่องสอน ร่วมใจสู้ภัยโควิด-19” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน วันที่ 26 มิถุนายน 2563 นี้ ณ บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป

รื้อถอนแล้วรีสอร์ทหรูบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติดอยอ่างขาง

23 มิ.ย.63 เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1(เชียงใหม่) นำโดยนายกมล นวลใย ผอ.สจป.ที่1(เชียงใหม่) นายชัชวาลย์ ปัญญา นายอำเภอฝาง นายสัมพันธ์ พุฒด้วง ผอ.ศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ หน่วยเฉพาะกิจปราบปรามพิเศษ(พยัคฆ์ไพร​)ภาคเหนือ และหน่วยงานภาคสนามในพื้นที่สนธิกำลังรื้อถอนอาคารสิ่งปลูกสร้างรีสอร์ท ตามกฏหมายมาตร 25 พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 บริเวณสถานีเกษตรหลวงอ่างขาง จำนวน 5 รายพื่อให้กลับฟื้นคืนสภาพเป็นป่าสงวนแห่งชาติอย่างยั่งยืน

สำหรับการรื้อถอนรีสอร์ทดอยอ่างขาง ครั้งนี้ก่อนหน้าเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบพบว่ารีสอร์ทและที่พัก หลายสิบแห่งได้ผุดขึ้นในพื้นที่โครงการหลวง บนดอยอ่างขาง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ โดยผิดกฎหมายซึ่งอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าลุ่มน้ำแม่ฝาง ต.ม่อนปิ่น และ ต.แม่งอน อ.ฝาง เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบก็พบว่ามีการบุกรุก จำนวน 24 ราย จึงออกคำสั่ง ตามมาตรา 25 แห่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 เพื่อทำการรื้อถอนในวันนี้ 5 รายก่อนส่วนที่เหลือจะดำเนินการรื้อถอนต่อไปหากตรวจสอบว่าผิดและบุกรุกจริงต่อไป

แวดวงสังคมตำรวจ

แวดวงสังคมตำรวจ
****************

 

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5 เดินทางมาตรวจเยี่ยมมอบของขอบคุณ และตรวจยกระดับการให้บริการประชาชนในสถานีตำรวจ ของ สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง โดยมีพล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ฤกษ์ชัย แสงสว่าง ผกก.สภ.ห้างฉัตร พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้การต้อนรัพร้อมนี้ ได้มอบสิ่งของบำรุงขวัญ ถุงยังชีพขอบคุณตำรวจ ประกอบด้วย ข้าวสาร 5 กก.ไข่ไก่, น้ำมันพืช, อุปกรณ์ป้องกันโรคให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.เสริมงาม เพื่อขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่การเป็น”ผู้พิทักษ์สันติราษฏร์”รับใช้ประเทศชาติและประชาชน ณ สภ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง

พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. (สส 5) พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ร่วมกิจกรรม บรรเทาความเดือดร้อนแก่ข้าราชการตำรวจและขอบคุณการปฏิบัติหน้าที่ในการช่วยเหลือดูแลประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 (COVID-19) โดยมีการมอบถุงยังชีพ จำนวน 30 ชุด และทุนการศึกษาช่วยเหลือบุตรธิดา ทุนละ 1,500 บาท จำนวน 10 ทุน แก่ข้าราชการตำรวจ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ ณ สภ.ภูพิงคราชนิเวศน์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่

โรงเรียนจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 จูงมือผู้ปกครองฝ่าวิกฤตโควิด-19 ลดภาระค่าใช้จ่าย พร้อมเปิดเรียนไปด้วยกัน

โรงเรียนจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 แจ้งงดการซื้อชุดประจำโรงเรียนเสื้อพื้นเมืองและชุดพละ หลังพบผู้ปกครองส่วนใหญ่ประสบสภาวะวิกฤตช่วงโควิด ไม่มีงาน ไม่มีรายได้ ทางโรงเรียนพร้อมเปิดเรียน และ มีมาตรการป้องกันสร้างความมั่นใจให้ผู้ปกครองเมื่อลูกมาเรียนหนังสือ โดย ผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนบ้านจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 ได้เดินทางทยอยมาประชุมเพื่อรับฟังความพร้อมของโรงเรียน มาตรการการป้องกัน และ มาตรการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของผู้ปกครอง โดยก่อนเข้าประชุมได้มีมาตรการป้องกันตรวจวัดไข้ ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ สวมใส่หน้ากากเข้าที่ประชุมที่มีสภาพอากาศปลอดโปร่งโล่ง

นายดำรง ปันทวัง ผู้อำนวยการโรงเรียนจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 ได้จัดประชุมผู้ปกครองนักเรียน เพื่อแจ้งการเตรียมความพร้อมในการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 พ.ค. นี้ โดยมีการแบ่งการประชุมออกเป็นช่วงชั้น รวม 4 วัน ประกอบไปด้วย การประชุมผู้ปกครองระดับชั้นอนุบาล1-3 / ระดับประถมศึกษา 1 – 3 / ระดับชั้นประถม 4-6 และ ระดับชั้นมัธยม 1 -3 เพื่อลดความแออัดของจำนวนผู้ปกครองที่จะเดินทางมาประชุมกับทางโรงเรียน ทั้งนี้โรงเรียนได้แจ้งเรื่อง การแต่งกายของนักเรียนปีการศึกษา 2563 เนื่องจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 ทางโรงเรียนบ้านจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 มีการประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาและคณะครู ให้มีการเปลี่ยนแปลงการแต่งกายซึ่งเป็นชุดพละและชุดพื้นเมืองประจำวันศุกร์ของโรงเรียนดังนี้

โดย ชุดพละ แต่งกายด้วยชุดพละเดิม หรือ หากเป็นนักเรียนเข้าใหม่ ให้สวมกางเกงวอร์ม เสื้อกีฬาที่นักเรียนมีอยู่แล้ว(ไม่กำหนดสีและลวดลายให้สุภาพและเรียบร้อย) และ ชุดพื้นเมืองประจำวันศุกร์ ซึ่งแต่เดิมโรงเรียนมีการตัดชุดพื้นเมืองประจำโรงเรียน เปิดภาคเรียนนี้ ให้นักเรียนที่เข้าใหม่ หรือ นักเรียนเก่า แต่งกายด้วยชุดพื้นเมืองประจำโรงเรียน หรือ เป็นชุดประจำชนเผ่า หรือ ชุดพื้นเมืองที่มีอยู่แล้ว โดยไม่ต้องซื้อใหม่เพราะแต่ละชุดมีราคาที่สูงพอสมควร ถือเป็นการช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับทางผู้ปกครองเนื่องจาก ผู้ปกครองส่วนใหญ่มีอาชีพรับจ้าง ช่วงวิกฤตโควิดประสบปัญหาเรื่องการขาดแคลนรายได้ ไม่มีงานทำ ทางโรงเรียนจึงเห็นว่าการลดภาระเรื่องค่าใช้จ่ายในชุดพละ และ ชุดพื้นเมือง ก็สามารถแบ่งเบาช่วยผู้ปกครองนักเรียนได้ในระดับหนึ่ง โรงเรียนจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ระดับอนุบาล ถึง มัธยมศึกษาปีที่ 3 มีนักเรียนรวมทั้งสิ้น 476 คน ด้าน ผู้ปกครองนักเรียน ต่างพึ่งพอใจกับมาตรการลดภาระและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ในโรงเรียนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ทางโรงเรียนจอมแจ้งมิตรภาพที่ 193 ยังเปิดห้องเรียนให้ผู้ปกครองได้เยี่ยมชม และ พบปะครูที่ปรึกษาเพื่อสอบถามปัญหาของเด็กแต่ละคนอย่างใกล้ชิด โดยภายในห้องเรียนได้มีการจัดโต๊ะเรียนเว้นระยะห่าง มีเจลล้างมือ นักเรียนทุกคนสวมใส่หน้ากากเฟสชิวเรียน ส่วนการรับประทานอาหารกลางวันแยกเป็น 4 จุด ตามอาคารสถานที่ เพื่อลดการแออัดของเด็กนักเรียนในช่วงพักเที่ยง แต่ละอาคารเรียนจะมีจุดล้างมือและเจลไว้ให้นักเรียน การเดินทางเข้าออกโรงเรียนใช้เส้นทางเดียว มีระบบคัดกรองตามมาตราการการป้องกันโรคโควิด19 จึงขอให้ผู้ปกครองไว้วางใจที่จะให้ลูกหลานมาเรียนหนังสือได้ตามปกติได้ในช่วงเปิดภาคเรียน นี้

“แม่ปิงสะอื้น”มือดีลอบปล่อยของเสียลงแม่น้ำเน่าเหม็นคลุ้งยาว 3 กม.ชาวบ้านโวยตรวจสอบด่วน

22 มิถุนายน 2563 ชาวบ้านตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ ที่มีบ้านเรือนอาศัยริมฝั่งแม่น้ำปิง ร้องเรียนว่า มีของเสียคล้ายคราบน้ำมัน ลอยอยู่บริเวณผิวน้ำของแม่น้ำปิง ส่งกลิ่นเหม็น สร้างผลกระทบต่อชาวบ้านเป็นอย่างมาก คราบดังคล้ายคราบไขมัน หรือน้ำมันลอยอยู่น้ำปิงเต็มทั้งตลิ่งเป็นระยะทางยาวกว่า 3 กิโลเมตร ตั้งแต่หมู่ที่6 ลงไป เป็นการทำลายทิวทัศน์ของเมืองเชียงใหม่ อีกทั้งยังส่งกลิ่นเหม็นทำให้ชาวบ้านในละแวกดังกล่าวได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก

ชาวบ้านได้เปิดเผยว่าทุกปีจะมีคราบน้ำมันในลักษณะดังกล่าวลอยอยู่ในลำน้ำปิง แต่ปีนี้นั้นพบว่ามีปริมาณมากจนผิดปกติ ซึ่งตอนแรกจนคิดว่าน่าจะเกิดจากการที่มีผักตบชวาและตะไคร้น้ำที่มีเป็นจำนวนมากในช่วงที่ผ่านมา แต่ภายหลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้มาแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่กลับพบว่าคราบน้ำมันดังกล่าวยังคงมีอยู่ และส่งกลิ่นเหม็นไปทั่ว ซึ่งส่งผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ริมน้ำ ทั้งนี้ จากการสังเกตพบว่าลอยมาตั้งแต่ทางเหนือของลำน้ำปิง ซึ่งคาดว่าน่าจะเกิดจากโรงงานในละแวกดังกล่าวมีการลักลอบปล่อยของเสียลงในน้ำ จนทำให้น้ำตกตะกอนและเกิดคราบดังกล่าว จึงเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมาตรวจสอบเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านและแก้ปัญหาแม่น้ำปิงเน่าเสียโดยด่วนด้วย

จับสองหนุ่มลอบขนไม้เถื่อนเต็มคันรถ

 

22 มิ.ย.63 พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่สืบสวนภาค 5 เจ้าหน้าที่ป่าไม้หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ พร.12(แม่จั๊ว) เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.32 เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพยัคฆ์ไพรเคลื่อนที่เร็วชุดที่ 4 กรมป่าไม้ จับกุมตัวนายไพรินทร์ อายุ 29 ปี ชาว อ.นาน้อย จ.น่าน นายอุเทน อายุ 46 ปีชาว อ.สูงเม่น จ.แพร่ ของกลางไม้สักแปรรูป จำนวน 14 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 0.21 ลูกบาศก์เมตร ไม้สักแปรรูป(เสาะร่องใสซอยรางลิ้น)จำนวน 310 แผ่น/เหลี่ยม ปริมาตร 2.62 ลูกบาศก์เมตร รถยนต์กระบะบรรทุก ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น รีโว่ สีขาว หมายเลขทะเบียน บธ 6578 น่าน 1 คัน นำตัวดำเนินดคีตามพระราชบัญญัติป่าไม้ พุทธศักราช 2484 ฐาน ร่วมกันทำไม้หรือกระทำด้วยประการใดๆซึ่งเป็นอันตรายแก่ไม้หวงห้ามโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันมีไม้สักแปรรูปไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันซ่อนเร้น นำพาไม้ซึ่งตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยการกระทำผิดกฏหมาย

 

จากการสืบสวนทราบว่าจะมีการขนไม้เถื่อนจากจังหวัดแพร่ ชุดจับกุมจึงนำกำลังตั้งด่านสกัดบริเวณริม ถ.ยันตรกิจโกศลทางเข้าสามแยกเข้า อ.เด่นชัย ต.แม่จั๊ว อ.เด่นชัย จ.แพร่ พบผู้ต้องหาทั้งสองขับรถของกลางบรรทุกไม้มาเต็มคันรถโดยใช้ผ้าใบคลุมปิดบังมิดชิด จากการตรวจสอบไม้ที่ขนม ไม่มีใบอนุญาต จึงจับกุมทั้งสองไว้ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนสภ.เด่นชัย จ.แพร่ ดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป

 

ชมสองปรากฎการณ์ในวันเดียว สุริยุปราคา-ครีษมายัน

 

วันนี้ 21 มิ.ย.63 ได้เกิดปรากฏการณ์ “สุริยุปราคาบางส่วน” เหนือฟ้าเมืองไทย ช่วงเวลาประมาณ 13.00 – 16.10 น. สังเกตได้ทั่วประเทศ ตามเวลาประเทศไทย ดวงอาทิตย์จะปรากฏเว้าแหว่งมากที่สุด เวลาประมาณ 14:49 น. และวันนี้ยังตรงกับ “วันครีษมายัน” (ครีด-สะ-มา-ยัน) (Summer Solstice) เวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี ดวงอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด และตกทางทิศตะวันตกเฉียงไปทางเหนือมากที่สุด สำหรับประเทศไทย ในวันดังกล่าวดวงอาทิตย์จะขึ้นเวลาประมาณ 05.51 น. ตกลับขอบฟ้าเวลาประมาณ 18.47 น. รวมเวลาที่ดวงอาทิตย์ปรากฏอยู่บนท้องฟ้านานถึง 12 ชั่วโมง 56 นาที ส่งผลให้เป็นวันที่ช่วงเวลากลางวันยาวนานที่สุดในรอบปี

 

ที่อุทยานดาราศาสตร์สิรินธร อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงการอุดมศึกษาวิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ได้มีการจัดกิจกรรมชม “สุริยุปราคา” ในวัน “ครีษมายัน” ซึ่งถือว่าเป็นวันเดียวที่เกิด 2 ปรากฏขึ้น โดยมีประชาชนเดินทางเข้ามารัรบชมกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งหากพลาดชมสุริยุปราคา ในปีนี้ไป จะต้องรออีก 7 ปี ถึงจะได้ชม แต่หากจะให้ปรากฏการณ์เกิดขึ้นพร้อมกันอีกครั้ง อาจจะต้องรออีก 19 ปี ซึ่งบรรยากาศที่ สดร.ได้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ที่ใช้ในการชมสุริยุปราคา และกล้องดูดาว กล้องโทรทรรศน์ ไว้ให้กับประชาชน พร้อมกับจัดนิทรรศการให้ความรู้กับเด็กนักเรียน เยาวชน และประชาชน รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย

 

ดร. ศรัณย์ โปษยะจินดา ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ เปิดเผยว่าที่ผ่านมาได้เกิดปรากฏการณ์สุริยุปราคา จันทรุปราคา มาแล้วมากมายหลายครั้ง นักดาราศาสตร์สามารถคำนวณการเกิดสุริยุปราคา จันทรุปราคา ได้ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต ข้อมูลแม่นยำเป็นข้อเท็จจริงที่เชื่อถือได้ และอธิบายได้ตามหลักการทางวิทยาศาสตร์ ปรากฏการณ์เหล่านี้เป็นเพียงปรากฏการณ์ธรรมชาติที่น่าศึกษาติดตาม เช่นเดียวกับปรากฏการณ์ทางดาราศาสตร์อื่นๆ นับเป็นโอกาสอันดีที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมาสนใจวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น และปัจจุบันข้อมูลข่าวสารถูกเผยแพร่อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางสื่อสังคมออนไลน์ ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็ว บางครั้งอาจไม่ใช่ข้อเท็จจริง ต้องอาศัยวิจารณญาณในการรับรู้ จึงขอให้เปิดรับข้อมูลข่าวสารอย่างมีสติ ศึกษาข้อมูลและความเป็นไปได้ด้วยเหตุและผล ใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์มาอ้างอิง และเผยแพร่ส่งต่อข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวัง

 

ขอบคุณภาพ-สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.)

1 สิงหาคมอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์เปิดให้เข้าเที่ยวชมหลังปิดมานานเพราะพิษโควิด19

นายกริชสยาม คงสตรี หัวหน้าอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อ.จอมทอง จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาได้มีนักท่องเที่ยวติดต่อสอบถามเข้ามาว่าอุทยานจะเปิดให้เข้าเที่ยมชมได้เมื่อไร ซึ่งทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้มีการกำหนดเปิดอย่างเป็นทางการ 1 สิงหาคม 2563 นี้โดยจะเริ่มให้เข้าเที่ยวชม แบบ New Normal ทุกคนต้องรักษามาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยจะต้องผ่านการคัดกรองตรวจสอบตั้งแต่ด่านแรก ตามขั้นตอนต่างๆ ที่ทางอุทยานกำหนด ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาท่องเที่ยว จะต้องสวมหน้ากากอนามัย ก่อนเข้ามาใช้บริการในเขตอุทยาน ต้องมีการเว้นระยะห่างตามเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารสุขกำหนด และทำการ Check In – Check Out ผ่านแพลตฟอร์มไทยชนะ นอกจากนี้ยังได้มีการการจำกัดนักท่องเที่ยวไม่ให้มากจนเกินไป

 

อย่างไรก็ตามในห้วงเดือนสิงหาคม ความสวยงามของธรรมชาติที่บ่มเพาะไว้ช่วงที่ปิด ได้รอนักท่องเที่ยวมาเที่ยวชมความสวยงามของน้ำตกที่จะมีสายน้ำไหลสวยงาม ป่าหน้าฝนที่ทุกคนจะได้มาสัมผัสกับสายฝน ไอหมอก และความหนาวเย็น นอกจากนี้นาขั้นบันได ของบ้านป่าบงเปียง อำเภอแม่แจ่ม และนาขั้นบันได บ้านกลางหลวง ก่อนถึงที่ทำการอุทยาน ชมวิถีชีวิตของชาวบ้าน ในรูปแบบการท่องเที่ยวแบบใหม่ ปลอดภัย ขอให้ทุกคนอดใจรอนิดหนึ่ง

ทหาร มทบ. 33 ทำความสะอาดศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียน เตรียมพร้อมปิดเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้

ทหารมณฑลทหารบกที่ 33 และโรงพยาบาลค่ายกาวิละ ร่วมกับคณะครูและเจ้าหน้าที่ จำนวน 20 คน ได้ร่วมกันทำความสะอาดภายในบริเวณศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนค่ายกาวิละ ซึ่งตั้งอยู่ภายในค่ายกาวิละ มณฑลทหารบกที่ 33 อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อเตรียมความพร้อมก่อนกลับมาเปิดเรียนอีกครั้งในวันที่ 1 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยเจ้าหน้าที่ได้มีการช่วยกันทำความสะอาดด้วยการนำน้ำยาฆ่าเชื้อไปทำความสะอาดพื้น เช็ดทำความสะอาดผนัง ประตู หน้าต่าง ราวจับ ราวบันได โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์สำนักงานต่าง รวมไปถึงเครื่องเล่นในสนามเด็กเล่นของโรงเรียน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ทุกคนทั้งครูและนักเรียนต้องใช้งานร่วมกัน

 

เพื่อช่วยลดการสะสมเพื่อช่วยลดการสะสมของเชื้อโรค ป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงโรคมือเท้าปาก ให้น้องๆ นักเรียนได้เรียนอย่างปลอดโรคและปลอดภัย พร้อมกันนี้ยังได้แนะนำวิธีการปฏิบัติตัวให้ถูกต้องแก่ครูและเจ้าหน้าที่ของโรงเรียน ทั้งการตรวจคัดกรองที่ถูกวิธี การตั้งเจลล้างมือไว้ตามจุดต่างๆ ภายในโรงเรียน การดูแลรักษาความสะอาดของพื้นที่ เพื่อให้มีการจัดการเรียนการสอน ภายใต้มาตรการทางด้านสาธารณสุขและการรักษาความปลอดภัยอย่างเหมาะสมด้วยทั้งนี้กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการกำหนดให้วันที่ 1 ก.ค. 2563 เป็นวันเปิดภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 ของโรงเรียนประถมศึกษาและมัธยมศึกษาพร้อมกันทั่วประเทศ