ธ.ก.ส.ทุ่มงบ 400 ล้านรองรับการค้าลำไยปีนี้

ที่ จ.เชียงใหม่ นายภูมิ เกลียวสิริกุล ผู้อานวยการฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ภาคเหนือมีผลไม้หลากหลายชนิด และเดือน ก.ค. – ก.ย. เป็นช่วงผลผลิตลำไยจะออกสู่ท้องตลาด ทาง ธกส.ได้ร่วมกับส่วนราชการ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรฯ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ และภาคเอกชน จึงได้จัดการประชุมในวันนี้เพื่อเตรียมรองรับผลผลิตลำไยที่จะออกสู่ท้องตลาด และจะเยอะกว่าปีที่ผ่านมา

เรื่องราคามีผลกระทบแน่นอนจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยเฉพาะเรื่องของการส่งออก การประชุมในปีนี้จึงเป็นการประชุมเพื่อหาทิศทางว่าลำไยปีนี้จะเป็นอย่างไร ซึ่งในส่วนของธนาคารก็ได้สนับสนุนกลุ่มทุน โดยมองว่าเมื่อผลผลิตออกสู่ตลาดมาก เกษตรกรระบายผลผลิตให้พ่อค้าที่จะออกมาพร้อมกันในเดือนสิงหาคม มีควาามจำเป็นที่ทางผู้ประกอบการจะรวบรวมลำไยต้องใช้เงินทุนจำนวนมาก ถ้าทาง ธกส.สนับสนุนเงินทุนให้ผู้ประกอบการแล้วรวบรวมผลผลิตลำไยไว้ในมือ มีต้นทุนเพียงพอที่จะรับซื้อ แล้วส่งต่อให้ผู้ประกอบการที่จะทำลำไยอบแห้งที่ส่งออก-ขายปลีกที่ห้างสรรพสินค้า ก็น่าจะช่วยเหลือได้

นายภูมิกล่าวต่อไปว่า ในส่วนของฝ่ายกิจการสาขาภาคเหนือตอนบน ซึ่งดูแล 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน (เชียงราย แพร่ เชียงใหม่ ลำปาง น่าน พะเยา ลำพูน และแม่ฮ่องสอน) ขณะนี้มีผู้สนใจเข้าร่วมทุกโครงการแล้วกว่า 100 ราย วงเงินที่ขอกู้กว่า 400 ล้านบาท คาดว่าจะสามารถจ่ายเงินกู้เพื่อไปดำเนินการรับซื้อลำไยได้เร็วที่สุดภายในไม่เกินเดือนกรกฎาคมนี้ ซึ่งผลผลิตลำไยปีนี้น่าจะเพิ่มขึ้นประมาณ 6 – 7 เปอร์เซ็นต์ เมื่อผลผลิตเพิ่มขึ้นราคาก็จะตกลง แต่ที่จริงแล้ว ทาง ธกส. ได้เน้นเรื่องของการส่งเสริมการผลิตลำไยคุณภาพดี เพื่อให้ตรงกับความต้องการของตลาด แต่ปัญหาคือ พี่น้องเกษตรกรยังทำไปไม่ถึงขั้นนั้น อาจต้องให้ความรู้ ความสามารถมากขึ้น ทาง ธกส.มีการส่งเสริมให้ใช้นวัตกรรม โดยร่วมกับ ม.แม่โจ้ โดยให้ทาง ม.แม่โจ้ คิดค้นนวัตกรรม เอาเกษตรกรรุ่นใหม่เข้าไปศึกษา เรียนรู้ และมีภารกิจในการค้นหาเกษตรกรรุ่นใหม่ เข้ามาสู่ภาคการเกษตรมากขึ้น ใช้องค์ความรู้ของเขาในการปรับเปลี่ยนภาคเกษตรกรไปสู่การเกษตรแบบใหม่ เพราะในระยะยาวสามารถก้าวตามทันสิ่งเหล่านี้ได้

สำหรับผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อต้องเป็นเกษตรกร สหกรณ์การเกษตร กลุ่มเกษตรกรหรือกลุ่มวิสาหกิจชุมชนที่มีประสบการณ์ในการรวบรวมผลไม้ กำหนดวงเงินกู้กรณีเป็นเกษตรกรสูงสุดไม่เกิน 5 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MRR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 6.50 ต่อปี) กรณีกลุ่มเกษตรกร สูงสุดไม่เกิน 30 ล้านบาท กรณีสหกรณ์การเกษตร สูงสุดไม่เกิน 50 ล้านบาท และกรณีกลุ่มวิสาหกิจชุมชน สูงสุดไม่เกิน 20 เท่าของเงินทุนตนเองและไม่เกิน 20 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย MLR (ปัจจุบันเท่ากับร้อยละ 4.875 ต่อปี) โครงการดังกล่าวกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรจะชดเชยดอกเบี้ยให้ร้อยละ 3.00 ต่อปี ในช่วง 6 เดือนแรกนับจากวันที่จัดทาสัญญาเงินกู้ โดยกาหนดชาระคืนเงินกู้ไม่เกิน 6 เดือนนับจากวันที่จัดทำสัญญาเงินกู้ และไม่เกินวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และทางธนาคารยังสนับสนุนผู้ประกอบการให้มีเงินทุนหมุนเวียนในการรับซื้อลำไยจากเกษตรกร เพื่อนำไปรวบรวมหรือแปรรูปเพื่อการส่งออก โดยพร้อมสนับสนุนสินเชื่อ SME เกษตร อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 4 ต่อปี ในระยะเวลา 3 ปี

ลำปางปรับภูมิทัศน์ถนนคนเดิน”กาดกองต้า”

นายกเทศมนตรีนครลำปาง ลงพื้นที่ดูความคืบหน้าการปรับปรุงผิวถนนกาดกองต้า เผยหากแล้วเสร็จจะเป็นถนนคนเดินที่สวยงามและโดดเด่นที่สุดอีกแห่งหนึ่ง

ดร.กิตติภูมิ นามวงค์ นายกเทศมนตรีนครลำปาง ลงพื้นที่ดูความคืบหน้าโครงการปรับปรุงพื้นผิวจราจร บริเวณถนนตลาดเก่า (กาดกองต้า) ดำเนินการโดย สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดลำปาง ในส่วนของพื้นผิวถนนได้ทำการการเทคอนกรีตพิมพ์ลายตั้งแต่บริเวณแยกสวนดอก (อาคารฟองหลี) ถึงแยกธนาคารกรุงเทพ (ขนมจีนป้าป๋อง) ไปแล้ว และได้ทำการเทซีเมนต์บริเวณไหล่ทางทั้งสองข้าง ซึ่งจุดนี้จะมีรางระบายน้ำเชื่อมต่อลงไปยังท่อระบายน้ำตลอดสาย พร้อมจะได้นำตะแกรงเหล็กมาคลุมรางระบายและท่อระบายอย่างมิดชิด โดยหลังจากสำนักโยธาธิการฯ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ จะโอนมอบให้กับ เทศบาลนครลำปางเป็นผู้ดูแลต่อไป

เทศบาลแม่สะเรียง เชิญชวนประชาชนลดละเลิกงดเหล้าเข้าพรรษา 3 เดือน

นายพัลลภ หว่าละ นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ด้วยทางกองการศึกษาเทศบาลตำบลแม่สะเรียง ได้จัด กิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาประจำปี 2563 ภายใต้กิจกรรม”งดเหล้า เข้าพรรษา เป็นเวลา 3 เดือน “ ขึ้น จึงขอเชิญชวนให้ทุกท่านใช้ช่วงเวลาเข้าพรรษานี้เป็นจุดเริ่มต้นของการ ลด ละ เลิกการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อมาร่วมกันฟื้นฟูร่างกายให้แข็งแรง ห่างไกลโรค สร้างสุขภาพชีวิต ชุมชนให้น่าอยู่และปลอดภัย จากอุบัติเหตุ และ โรคภัยร้ายแรงต่างๆ ที่เกิดจากพิษของสุรา โดยช่วงเทศกาลเข้าพรรษากิจกรรมงดเหล้าได้กลายเป็นกิจกรรมหนึ่งที่เทศบาลตำบลแม่สะเรียงได้มีการรณรงค์มาอย่างต่อเนื่อง เพื่อเชิญชวนให้พี่น้องประชาชนคนแม่สะเรียง ลด ละ เลิก การดื่มเหล้า ทำสมาธิ เข้าวัดฟังธรรม โดยสามารถร่วมลงทะเบียนได้ที่ กองการศึกษาเทศบาลตำบลแม่สะเรียง ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ตร.ภาค 5 เรียกทุกฝ่ายถกปัญหาจราจรติดขัดใน จ.เชียงใหม่ ช่วงเปิดเทอม 1 พ.ค ทุกฝ่ายทุกระบบพร้อมเชื่อรับมือได้ไม่มีปัญหา

29 มิ.ย.63 ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เป็นประธานประชุมการ เตรียมความพร้อมและแก้ไขปัญหาการจราจรเปิดภาคเรียนในแบบNew normal ในพื้นที่ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ โดยมีพล.ต.ต. พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว. เชียงใหม่ พ.ต.อ.ไพศาล นันตา รอง ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ (รับผิดชอบงานจราจร)พ.ต.อ.ฐาปนพงศ์ ชัยรังษี ผู้กำกับกลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ หน่วยงานฝ่ายปกครอง และตัวแทนจากสถาบันการศึกษา ร่วมประชุมในการเปิดเรียนวันแรก 1 พ.ค. นี้ ที่ประชุมได้ข้อสรุปแนวทางการปกิบัติโดยกลุ่มงานจราจร ภ.จว.เชียงใหม่ และสถานีตำรวจพื้นที่เขตติดต่อพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ออกปฏิบัติหน้าที่งานจราจรอย่างเต็มที่ มีชุดเคลื่อนที่เร็ว และอาสาจราจรจำนวนกว่า 400 นาย พร้อมรถยก และอุปกรณ์เครื่องมือต้องพร้อมแก้ไขปัญหา และอำนวยความสะดวกการจราจร โดยประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการคืนพื้นผิวจราจรจุดก่อสร้างและหาแนวทางในการแก้ปัญหาการจราจรร่วมกันอย่างเต็มที่เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรที่ติดขัด

สภาพปัญหาจราจรปริมาณรถมากเกิดขึ้นในเขต อ.เมืองเชียงใหม่ ซึ่งมีโรงเรียนรวมจำนวนทั้งสิ้น 75 แห่ง โดยมีโรงเรียนที่มีจำนวนนักเรียนมากกว่า 2,000 คนขึ้นไป มีทั้งหมด 8 โรงเรียน ตั้งอยู่ใน 3 เส้นทางหลัก คือ ถนนมหิดล ถนนเจริญประเทศ และถนนแก้วนวรัฐ โดยเส้นทางทั้ง 3 การจราจรจะหนาแน่นและรถติดในเวลา 06.00 น. – 09.00 น. และ 15.00 น. – 18.00 น. ของทุกวันที่โรงเรียนเปิดทำการ ส่วนถนนมหิดล ได้มีการประชุมหารือ กับทางโรงเรียนในเส้นทาง คือโรงเรียนมงฟอร์ตและโรงเรียนวารี ได้จัดระบบการจราจรภายในโรงเรียน ที่จอดรถ และจัดเจ้าหน้าที่ (รปภ.) ช่วยอำนวยความสะดวกพื้นที่ภายใน และด้านหน้าโรงเรียน ร่วมกับ จนท.ตำรวจจราจร และอาสาสมัครฯ ที่มาอำนวยความสะดวกด้านการจราจรประจำจุดดังกล่าวทางกลุ่มงานจราจรตำรวจภูธร จ.เชียงใหม่ ยังได้ร่วมกับสถานศึกษา วางแผนการจัดระบบจราจร ร่วมประชุมผู้ปกครองแบบ Online Homeroom โดยเน้นผู้ปกครอง นักเรียนใหม่ ซึ่งยังไม่คุ้นชินกับเส้นทาง และการรับ-ส่ง ให้มีความพร้อม และวางแผนการเดินทางเพื่อให้ใช้เวลาในการรับ-ส่งน้อยที่สุด วางแผนการเดินทาง ได้แก่ เส้นทางเข้า-ออก,จุดรับ-ส่ง จุดนัดหมาย เตรียมสิ่งของให้พร้อมก่อนลงจากรถ ได้แก่ กระเป๋านักเรียนและสิ่งของต่างๆ เงินสำหรับไปโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการก่อให้เกิดปัญหาจราจร

นอกจากนี้ยังเพิ่มมาตราการ“มาตรการ 5 เตรียม 1 เสริม” ให้ทุกพื้นที่เตรียมแผน การจัดระบบการจราจรร่วมกับสถานศึกษาต่างๆเตรียมกำลังพล ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ สถานีตำรวจ 9 เส้นทางหลัก ในการแก้ไขปัญหาการจราจรเตรียมอุปกรณ์ เช่น ป้าย เครื่องหมายจราจร แผงกั้น กรวยยาง เสื้อกันฝน รองเท้าบู๊ท อุปกรณ์วิทยุสื่อสารโดยการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ปรับปรุงแก้ไขในเส้นทางหลัก และ การคืนพื้นผิวการจราจร จุดก่อสร้าง เตรียมประชาสัมพันธ์ทางสื่อต่างๆ เพื่อให้ประชาชนรับทราบ และ แก้ไขปัญหาการจราจรร่วมกันเสริม smart city โดยการใช้เทคโนโลยี จากกล้อง CCTV อากาศยานไร้คนขับ (โดรน) และ แอปพลิเคชั่น Google map ในการตรวจสอบสภาพการจราจร เชื่อว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนได้แน่นอน

หนุ่มรุ่นยิงตัวตาย ซิ่งชนป้าดับ แค้นขอเงินไม่ได้เผารถน้องสาววอด

หนุ่มรุ่นวัย 26 เครียดปัญหาชีวิต เปิดห้องโรงแรมยิงตัวตาย
——————————————————————-
28 มิ.ย.63 พ.ต.ท.คมสันต์ พิมพันธ์ชัยยบูลย์ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงใหม่ รับแจ้งเหตุคนยิงตัวตายภายในโรงแรมแห่งหนึ่งย่านศรีปิงเมือง อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงไปสอบสวนร่วมกับเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิรวมใจเชียงใหม่ ภายในห้องพักชั้น 1 ของโรงแรม พบร่างผู้ตาย นายดำ (นามสมมุติ) อายุ 26 ปี ชาว อ.สารภี สภาพนั่งฟุ๊บอยู่กับโต๊ะ มันสมองปนเลือดไหลนองพื้น พบอาวุธปืนขนาด .22 ตกอยู่ใต้เก้าอี้ ในห้องไม่พบร่องรอยการต่อสู้ สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมาเปิดห้องพักโรงแรมดังกล่าว ตกดึกได้ยินเสียงปืนดัง 1 นัดจึงแจ้งเจ้าหน้าที่สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายมีปัญหาเรื่องการเงินและเรื่องความรัก จึงออกจากบ้านมาเช่าโรงแรมปลิดชีพตัวเองดังกล่าวของศพชายคนดังกล่าว

ซิ่งชนป้าวัย 57 ปี ดับคาที่
———————————
28 มิ.ย.63 ร.ต.อ.มานิตย์ ทองคำ รอง สว.(สอบสวน) สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนกับรถยนต์ แล้วไปพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ที่ขับตามมา มีผู้เสียชีวิตเหตุเกิดถนนสาย เชียงใหม่-ฮอด กม.ที่ 15-16 ม.3 ต.หางดง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จึงไปสอบสวน พบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีชมพูดำ หมายเลขทะเบียน 1 กญ 837 เชียงใหม่ สภาพถูกชนพังเสียหายยับเยินทั้งคนห่างออกไปพบรถยนต์คู่กรณีที่ขับชน เป็นรถกระบะโตโยต้า สีเขียว หมายเลขทะเบียน บท 8297 เชียงใหม่ มีร่องรอยการชนบริเวณด้านหน้าและด้านข้างฝั่งคนขับพังยุบลงไป นอกจากนั้นยังพบรถยนต์ที่ถูกชนอีก 1 คัน เป็นรถยนต์กระบะโตโยต้า รีไว้ สีขาว หมายเลขทะเบียน ยง 7195 เชียงใหม่ ได้รับความเสียหาย มีผู้เสียชีวิต1 ราย ชื่อป้าทอง(นามสมมุติ) อายุ 57 ปี ชาว อ.หางดง คนขับขี่ รถจักรยานยนต์ สอบสวนทราบว่าก่อนเกิดเหตุรถยนต์ทั้งสองคันเกิดอุบัติเหตุชนกันรถยนต์โตโยต้าสีเขียว เสียหลักพุ่งไปชนเข้ากับรถจักรยานยนต์ของป้าทองอย่างจังเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าวซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

จับพี่ชายโมโหขอเงินน้องสาวไม่ได้เผารถระบายอารมณ์
——————————————————————
28 มิ.ย.63 พ.ต.อ.วินิจฉัย พินิจศักดิ์ ผกก.สภ.เชียงดาว พ.ต.ต.อภิชัย พันธุ์คงชื่น สว.สส.สภ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ได้นำกำลังบุกจับกุมตัวนาย ก.(นามสมมุติ) อายุ 34 ชาว ต.เมืองคอง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ตามหมายจับของศาลแขวง เชียงดาว ที่ จ 9/2563 ลงวันที่ 26 มิถุนายน 63 ในข้อหา”ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ของผู้อื่น”จับกุมได้ที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.เวียงแหง ขณะหลบหนีไปกบดาน สืบเนื่องจากกลางดึกวันที่ 25 มิ.ย.63 ได้มีคนร้ายเป็นชาย 1 คนใช้ขวดบรรจุน้ำมันบุกเข้าไปเผาโรงจอดรถภายในบ้านหลังหนึ่งใน ต.เมืองคอง ทำให้รถยนต์โตโยต้ารีโวสีดำ และรถจยย.ฮฮนด้าเวฟสีแดงดำ ถูกไฟเผาไหม้จนได้รับความเสียหายสองคันมูลค่ารวมกว่า 1.3 ล้านบาท และโรงจอดรถได้รับความเสียหายด้วย สอบสวนทราบว่าคนร้ายคือนาย ก. สาเหตุขัดแย้งกับน้องสาวลงทุนทำสวนส้มด้วยกันแต่ถอนหุ้นน้องสาวแบ่งเงินให้ 1 แสนบาท ไม่พอใจมาขอเพิ่มอีก 1.7 แสนบาท น้องไม่ให้เลยโมโหลอบเผาโรงจอดรถระบายความแค้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวดำเนินคดีดังกล่าว

“ลดาวัลลิ์” วอน”ธนาคารพาณิชย์”ใช้งบฯCSRช่วย SMEsแก้ปัญหา NPL โดยด่วน

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงานและผู้ก่อตั้งว่าที่พรรคเสมอภาค เปิดเผยว่า ตนและทีมเสมอภาคไ ด้รับฟังปัญหาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการ SMEs จากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 อย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้ขาดสภาพคล่องอย่างรุนแรง สาเหตุเพราะขาดรายได้จากนโยบายปิดเมือง(Lockdown) ของรัฐบาล และมีภาระรายจ่ายอย่างต่อเนื่องจากค่าเช่าสถานที่ ค่าจ้างพนักงาน ค่าดอกเบี้ยเงินกู้ ฯลฯ อีกทั้งยังไม่สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน (Soft Loan) ตามมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐเพราะขาดคุณสมบัติบางประการ นอกจากนี้ยังมีปัญหาความล่าช้าของการอนุมัติสินเชื่อซึ่งใช้เวลาขั้นต่ำ 3เดือน หลายธนาคารได้ช่วยแก้ไขปัญหาเบื้องต้นด้วยการให้สินเชื่อส่วนบุคคลแก่ผู้ประกอบการซึ่งมีข้อดีคืออนุมัติเร็วกว่าแต่มีข้อเสียคืออัตราดอกเบี้ยสูงและวงเงินกู้ต่ำ

ขณะนี้ธนาคารพาณิชย์ถือเงินสดเป็นจำนวนมาก แต่การปล่อยกู้ในขณะนี้ต้องเพิ่มความเข้มงวดเพื่อรักษา NPL ให้ไม่เกินเพดาน 3% ประกอบกับธนาคารแห่งประเทศไทยประกาศห้ามธนาคารพาณิชย์ซื้อหุ้นคืน และห้ามจ่ายเงินปันผลเป็นการชั่วคราว เพื่อสำรองเงินไว้ใช้ช่วยเหลือภาคเศรษฐกิจ ผู้ประกอบการ SMEs จึงเสนอความเห็นให้พิจารณาว่า ควรให้ธนาคารพาณิชย์นำงบประมาณ CSR หรืองบฯที่ใช้เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมขององค์กร มาใช้ โดยตั้งเป็นโครงการช่วยเหลือผู้ประกอบการด้วยเหตุผลดังนี้

1.นโยบายปิดเมือง(Lockdown)และการหดตัวด้านการท่องเที่ยว ทำให้ธรรมชาติฟื้นฟูขึ้นมาในระดับหนึ่งในระยะสั้นนี้จึงไม่มีความจำเป็นต้องรีบนำงบฯCSR ไปปลูกต้นไม้หรือฟื้นฟูธรรมชาติ
2.งบฯ CSR คืองบฯให้เปล่าจึงสามารถแก้ปัญหาผู้ประกอบการที่ติดแบล็คลิสต์ (Blacklist) หรือเพิ่งติดแบล็คลิสต์เพราะขาดสภาพคล่องช่วงวิกฤตไวรัสโควิด
3.งบฯ CSR สามารถอนุมัติให้ผู้ประกอบการได้เร็วกว่า
4.ผู้ประกอบการก็คือลูกค้าของธนาคาร ถ้าลูกค้าส่วนใหญ่ล้มกันหมดธนาคารก็ไปไม่รอดเช่นกัน
5.การจ้างงานของ SMEs มีทั้งสิ้น 14ล้านคน ดังนั้นการช่วยเหลือ SMEs จะสามารถช่วยคนไทย 14ล้านคนไม่ให้ว่างงานและยังเป็นการช่วยธุรกิจในซัพพลายเชน(Supply chain)ด้วยเช่นกัน

นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า ผู้ประกอบการ SMEs มีบทบาทสำคัญในระบบเศรษฐกิจของประเทศ หากไม่สามารถฟื้นตัวได้จะเกิดความเสียหายตามมามากมาย จึงขอให้ธนาคารพาณิชย์ทุกแห่งพิจารณาช่วยเหลือ SMEs อย่างเร่งด่วน เพื่อไม่ให้ปัญหาขยายตัวลุกลามไปยังภาคส่วนอื่นๆต่อไป ซึ่งในช่วงนี้เป็นต้นไป”ทีมเสมอภาค”จะเดินสายพบปะแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับประชาชนกลุ่มอาชีพต่างๆ ถ้าพบปัญหาที่จำเป็นต้องแก้ไขอย่างเร่งด่วนก็จะเสนอให้รัฐบาลช่วยแก้ไขให้ ส่วนปัญหาใดที่เป็นการแก้ไขในระยะยาวก็จะนำมากำหนดเป็นนโยบายของว่าที่พรรคเสมอภาคและรอโอกาสได้เป็นรัฐบาลก็จะผลักดันแก้ไขปัญหาให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป” นางลดาวัลลิ์กล่าว.

เทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเยี่ยมวัดถวายหน้ากากอนามัยแด่พระภิกษุสงฆ์

27 มิ.ย. 63 นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางไปวัดเจดีย์หลวงวรวิหาร และวัดพระธาตุดอยคำ เพื่อถวายหน้ากากอนามัย สำหรับการป้องกันโรค โควิด – 19 แก่พระสงฆ์ สามเณร พร้อมหารือมาตรการเยียวยาพระสงฆ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ ที่วัดเจดีย์หลวงวรวิหาร และเข้ากราบพระกิตติวิมล และถวายหน้ากากอนามัยแด่พระสงฆ์ ก่อนจะเข้ากราบสักการะเสาอินทขิล และเจดีย์หลวง จากนั้นเดินทางไปยังวัดพระธาตุดอยคำ เข้ากราบสักการะหลวงพ่อทันใจ และกราบนมัสการพระครูสุนทรเจติยารักษ์ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุดอยคำ และถวายหน้ากากอนามัยแก่พระสงฆ์ พร้อมร่วมสนทนาธรรม รับทราบข้อมูลปัญหาอุปสรรคการดำเนินงานของวัด รวมถึงมาตรการเยียวยาพระสงฆ์และการให้ความช่วยเหลือ

นายเทวัญ กล่าวว่า ผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้พระสงฆ์ได้รับผลกระทบ ไม่มีญาติโยมเดินทางมาทำบุญ ใส่บาตร ทั้งทางวัดยังต้องรับภาระค่าน้ำ ค่าไฟ และดูแลผู้ยากไร้ที่มาขอความช่วยเหลือ จึงมีการเสนอมาตรการเยียวยาพระสงฆ์ต่อคณะรัฐมนตรี โดยให้เงินเยียวยาพระสงฆ์รูปละ 60 บาทต่อวัน เพื่อสนับสนุนเป็นค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ภายในวัด ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือว่าจะใช้งบประมาณในส่วนใด และส่งเงินให้ทางวัดเป็นผู้บริหารจัดการ ย้อนหลังตั้งแต่เดือนเมษายนจนถึงมิถุนายน เป็นระยะเวลา 3 เดือน

ภายหลังที่ได้มีมาตรการผ่อนปรนของรัฐบาล วัดต่าง ๆ สามารถเปิดให้ประชาชนเข้ากราบพระได้ตามปกติ และอนุญาตให้จัดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาได้ แต่ต้องขอความร่วมมือให้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด-19 และขอให้ประชาชนร่วมปฏิบัติตามอย่างเคร่ง ทั้งการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง และหมั่นล้างมือบ่อย ๆเพื่อป้องกันการกลับมาระบาดของโรคโควิด19 อีกครั้ง

อุทยานแห่งชาติแม่สะเรียง- อุทยานแห่งชาติสาละวิน ทดสอบระบบท่องเที่ยวอุทยานวิถี(New Normal )

นายลิขิต ไหวพรม หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแม่สะเรียงและนายนาวี ศิลป์สุภากุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติสาละวิน ร่วมกับฝ่ายปกครองอำเภอแม่สะเรียง สาธารณสุข ผู้นำชุมชน ชาวบ้านในพื้นที่ ได้ซักซ้อมและสาธิตการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติในรูปแบบ New Normal โดยให้นักท่องเที่ยวสแกน QR Code “ไทยชนะ” เพื่อเช็คอิน เข้า – ออก พร้อมทดสอบระบบ Application QQ (QueQ) แอปสำหรับการลงทะเบียนและจองล่วงหน้าเพื่อเข้าอุทยานฯ เพื่อตรวจสอบปัญหาของระบบ สำรวจความพร้อมการรองรับจำนวนนักท่องเที่ยวก่อนการเปิดการท่องเที่ยว

นอกจากนี้ ยังมีมาตรการเข้มงวด โดยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว ตั้งจุดคัดกรอง บริเวณป้อมทางเข้า ใช้เครื่องวัดอุณหภูมิ จัดตั้งจุดบริการเจลล้างมือแอลกอฮอล์ จัดตั้งจุดลงทะเบียนทาง QR Code “ไทยชนะ” พร้อมสมุดลงชื่อกรณีไม่มีสมาร์ทโฟน เน้นย้ำให้นักท่องเที่ยวทุกคนสวมหน้ากากอนามัย ท่องเที่ยวแบบเว้นระยะห่าง โดยจัดเจ้าหน้าที่ประจำจุดต่างๆ คอยให้คำแนะนำและสาธิตการท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติในรูปแบบ New Normal ตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันและบรรเทาอุบัติภัย ลดผลกระทบจากการท่องเที่ยว

ฝนตกหนักถนนเชียงใหม่-เชียงรายขาด ไม่สามารถใช้เส้นทางได้

 

27 มิ.ย 63 เกิดฝนตกหนักในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ตั้งแต่กลางคืนจนถึงเช้าวันนี้ เป็นเหตุให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก ตัดถนนทางหลวงมายเลข 118 เชียงราย- เชียงใหม่ บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 36 บ้านโป่งอ้อ และบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 32 บ้านแม่หวาน ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ รวมถึงเส้นทางถนนตั้งแต่หลักกิโลเมตรที่ 32-36 ก็ยังมีเส้นทางชำรุดตลอดทาง

กระแสน้ำที่เชียวกราดที่ไหลลงมาจากภูเขาทำให้ถนนถูกตัดขาด รถเล็กรถใหญ่ไม่สามารถผ่านไปได้ทั้งขาไปจากเชียงใหม่สู่จังหวัดเชียงราย และจังหวัดเชียงรายสู่เชียงใหม่ ขณะนี้เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมโดยนำเครื่องจักร์เข้าพื้นที่เพื่อซ่อมถนนให้กลับมาใช้งานได้โดยด่วนแล้ว ประชาชนที่ต้องการเดินทางจากจังหวัดเชียงใหม่ไปเชียงรายและเชียงรายมาเชียงใหม่ควรหลีกเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น

ยึดไม้เถื่อนมอดไม้ลักลอบตัดในอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์

ยึดไม้แปรรูปยึดรถจักรยานยยนต์ มอดไม้ผู้กระทำผิดไหวตัวทันอาศัยความชำนาญในพื้นที่หลบหนีไปได้หวุดหวิด ส่วนอนุรักษ์และป้องกันฯ จับมือ สายตรวจปราบปราม สบอ.16 แม่สะเรียง สนธิกำลังร่วม อุทยานแม่สุรินทร์ฯ ลาดตระเวนตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าในเขตอุทยานเพื่อส่งขายให้กลุ่มนายทุนซึ่งส่วนใหญ่เป็นมอดไม้ระดับชาวบ้านที่ขาดจิตสำนึกรับจ้างตัดเพียงเพื่อหวังเงินตอบแทนโดยไม่คำนึงถึงผลเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติ

นายมิตร อุตมะ ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์และป้องกันทรัพยากร แจ้งว่า เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามฯ ประจำสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง สนธิกำลังร่วมกับ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินทร์ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ มส.2 (ม่อนตะแลง) สถานีตำรวจภูธรห้วยโป่ง ออกตรวจปราบปรามการกระทำผิดกฎหมายว่าการป่าไม้ ในเขตพื้นที่รับผิดชอบอุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุรินท์ บริเวณห้วยซางเลา ท้องที่บ้านแม่จ๋า ต.ห้วยโป่ง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

สามารถตรวจยึดไม้สักแปรรูปได้ 63 แผ่น ตรวจยึดรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 คัน ส่วนเจ้าของไหวตัวหลบหนีไปได้ทางเจ้าหน้าที่จึงร้องทุกข์กล่าวโทษนำบันทึกส่งพนักงานสอบสวน สภ.ห้วยโป่ง เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป