คณะที่ปรึกษาโครงการพัฒนาราษฏรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานโครงการฯ ในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ที่ห้องประชุมศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน พล.อ.นิพนธ์ ภารัญนิตย์ รองประธานที่ปรึกษาโครงการพัฒนาราษฏรชาวไทยภูเขาอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน และเข้าร่วมประชุมติดตามความก้าวหน้าการดำเนินโครงการพระราชดำริกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง โดยมี นายสุวพงศ์ กิติภัทย์พิบูลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้การต้อนรับ ภายหลังการประชุม พล.อ.นิพนธ์ พร้อมคณะเดินทางลงพื้นที่ตรวจติดตามความก้าวหน้าการดำเนินงานภายในศูนย์บริการและพัฒนาที่สูงปางตอง ต.หมอกจำแป่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน และ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปาย ตามพระราชดำริ (ศูนย์ท่าโป่งแดง) ต.ผาบ่อง เมือง จ.แม่ฮ่องสอน

ความก้าวหน้าการดำเนินงานศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ เป็นแหล่งศึกษาและเรียนรู้การใช้ประโยชน์ที่ดินและการจัดการดินในพื้นที่ลุ่ม-ดอน ในการทำการเกษตร ตลอดจนการเผยแพร่ความรู้และประชาสัมพันธ์การใช้ปุ๋ยอินทรีย์และผลิตภัณฑ์กรมพัฒนาที่ดิน เป็นแหล่งเรียนรู้ทั้งด้านพืชและสัตว์ ขยายผลสู่เกษตรกรในพื้นที่เป้าหมาย โดยศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์แม่ฮ่องสอน ดำเนินการผลิตแกะเพื่อกระจายสู่เกษตรกรและเครือข่ายผู้เลี้ยงแกะในพื้นที่ นำขนแกะมาผลิตเป็นผ้าพันคอ เสื้อ หมวก กระเป๋า และผ้าคลุมไหล่

การส่งเสริมการเลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอน โดยปศุสัตว์จังหวัด ร่วมกับมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ วิทยาเขตแม่ฮ่องสอน ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์แม่ฮ่องสอน เข้ามาส่งเสริมการเลี้ยงไก่แม่ฮ่องสอน ปัจจุบันสร้างเป็นอาชีพแก่เกษตรกร สามารถจำหน่ายไก่สวยงาม ไก่มีชีวิต กิโลกรัมละ 120 บาท ไก่ชำแหละกิโลกรัมละ 180 บาท นอกจากนี้ยังได้ส่งเสริมการเลี้ยงหมูดำเชียงใหม่ การผลิตสัตว์น้ำ ปลา แจกจ่ายให้ประชาชน เป็นแหล่งเรียนรู้ด้านข้าว

การผลิตข้าวปลอดภัยและเมล็ดพันธุ์ข้าวกระจายไปสู่เกษตรกร นอกจากนี้ยังได้จัดแปลงทดสอบการปลูกเมล่อนเพื่อการค้า เป็นหนึ่งในพืชทางเลือกของจังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเมล่อน มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น 65-75 วัน ใช้พื้นที่น้อยให้ผลตอบแทนสูง สภาพแวดล้อม ภูมิอากาศ คุณภาพน้ำ ดินและแร่ธาตุมีความเหมาะสมในการผลิตเมล่อนให้มีคุณภาพและปลอดภัย โดยได้ขยายผลการปลูกเมล่อนไปยังเกษตรกรในหมู่บ้านบริวาร ส่วนราชการ สถาบันการศึกษา เป้าหมายในปี 63 นี้ จำนวน 5 ราย และจะขยายผลไปยังเกษตรกรทุกอำเภอ

เกษตรกร เชียงคำ-ภูซาง 2 อำเภอจับมือร่วมเปิดโครงการพัฒนาตลาดสินค้าการเกษตร 63 โชว์สินค้ามากมายให้นักท่องเที่ยวได้ช็อป ชิม แบบจุใจ

ที่บริเวณลานหน้าที่ว่าการอำเภอเชียงคำ จ.พะเยา นายกนก ศรีวิชัยนันท์ นายอำเภอเชียงคำ เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการพัฒนาตลาดสินค้าทางการเกษตรประจำปี 63 โดยนายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอภูซาง ได้มอบหมายให้นายสุริยา งานดี ปลัดอำเภอภูซาง เป็นตัวแทนพากลุ่มเกษตรกรของอำเภอเข้าร่วมโชว์และวางจำหน่ายสินค้าทางการเกษตรในครั้งนี้ด้วย ซึ่งภายในงานได้รับความสนใจจากชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงนักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมบูทต่าง ๆ ภายในงานเป็นไปด้วยความครึกครื้นเป็นอย่างมาก

นายกนก กล่าวว่า ชาวบ้านทั้ง อ.เชียงคำ และอ.ภูซาง ส่วนใหญ่จะทำอาชีพเกษตรกรเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นการปลูกข้าว ปลูกผลไม้ตามฤดูกาล นอกจากนี้ยังมีการนำทุเรียนมาปลูกในพื้นที่ของทั้ง 2 อำเภอ สร้างความแปลกตาแปลกใจให้กับคนที่รู้ข่าวเป็นอย่างมาก เพราะในส่วนของทุเรียนนั้นปกติจะปลูกกันในโซนภาคกลางและภาคตะวันออก นอกจากนี้ชาวบ้านบางส่วนยังขนเครื่องปั้นดินเผา อาหารที่ขึ้นชื่อของหมู่บ้านมาวางขายและโชว์ให้นักท่องเที่ยวที่เข้าเยี่ยมชมได้เลือกซื้อเลือกชิมกัน

ทั้งนี้ถือได้ว่าเป็นการเปิดตลาดทางการเกษตรที่นำเอาผลผลิตทางการเกษตรออกมาอวดต่อสายตาของผู้ที่เข้าร่วมงานนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งโครงการดังกล่าวยังได้รับงบประมาณสนับสนุนมาจากกรมการปกครองซึ่งเล็งเห็นความสำคัญของพี่น้องชาวเกษตรกรเป็นอย่างมาก จึงทำให้โครงการนี้สัมฤทธิ์ผลในที่สุดและยังแสดงให้เห็นว่าในพื้นที่ อ.เชียงคำและอ.ภูซาง จ.พะเยาแห่งนี้ก็สามารถปลูกพืชผักดัง ๆ ของต่างจังหวัดได้เป็นอย่างดี

ฝนตกถนนลื่นหนุ่มรุ่นซิ่ง จยย.กลับไม่ถึงบ้านชนเสาปูนเสียชีวิต

02.00 น. วันที่ 18 ก.ค.63 ร.ต.อ.สมโภช น้อยคง ร้อยเวร สภ.ภูพิงค์ราชนิเวศน์ จ.เชียงใหม่ รับแจ้งมีเหตุรถจักรยานยนต์เสียหลักพุ่งชนเสาป้าย เหตุเกิดปากทาง เข้า-ออก ลานประเสริฐแลนด์ ต.สุเทพ อ.เมืองเชียงใหม่ จึงไปสอบสวนพร้อมกับพวก

ที่เกิดเหตุพบรถจักรยานยนต์ ฮอนด้า สกู๊ปปี้ไอ สีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กล 2072 เชียงใหม่ สภาพพังล้มอยู่ใกล้กับเสาปูนห่างออกไปเล็กน้อยพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย อายุ 20 ปี ชาว อ.หางดง จ.เชียงใหม่ สภาพศพบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะเลือดไหลนองพื้น สอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ตายขับขี่ รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว ออกจากลานประเสริฐแลนด์ เพื่อเลี้ยวซ้ายออกถนนคันคลองชลประทานจะกลับบ้าน ท่ามกลางสายฝนที่โปรปรายประกอบกับเป็นที่มืดถนนลื่นรถเสียหลักพุ่งชนเสาปูนเสียงดังสนั่นเป็นเหตุให้เสียชีวิตดังกล่าว

ปกครองแม่ลาน้อย ทหารพราน 36 ตำรวจ ตชด.337 สนธิกำลังกวาดล้างยาเสพติดตามเส้นทางรอยต่อแม่ฮ่องสอน-เชียงใหม่

ดร.ชูชาติ คำมา นายอำเภอแม่ลาน้อย และ นายวิทยา โปรทาสี หัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครองอำเภอแม่ลาน้อย มอบหมายให้ นายวัชรพงศ์ จันทิมา ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง และ นายทัศไนย วิเศษคุณ ปลัดอำเภองานป้องกันอำเภอแม่ลาน้อย นำกำลังชุดปฏิบัติการพิเศษ อส.อ.แม่ลาน้อย สินธิกำลัง หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่ลาหลวง และ เจ้าหน้าที่ ตชด. 337 แม่สะเรียง ตั้งจุดตรวจจุดสกัดตามแผนพื้นที่เสี่ยง(ชั่วคราว)เพื่อกวาดล้างยาเสพติดพื้นที่พื้นที่เขตรอยต่อ 2 จังหวัด บริเวณบ้านอมลาน หมู่ 2 ตำบลขุนแม่ลาน้อย อำเภอแม่ลาน้อย จังหวัดแม่ฮ่องสอน

ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่เฝ้าระวัง พบรถยนต์ต้องสงสัยยี่ห้ออีซูสุ สีเทาดำ จึงได้ให้สัญญาณหยุดรถ คนขับได้หยุดรถห่างจากจุดตรวจ ประมาณ 30 เมตร แล้วเปิดประตูทิ้งรถจอดไว้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบรถยนคันดังกล่าว พบภายในรถพบชายชาวบ้านอายุ 52 ปีคนหนึ่งจากการตรวจค้นอย่างละเอียด พบกระเป๋ามีผ้าห่มปกปิดอยู่ ข้างในมียาบ้าจำนวน 16,088 เม็ด ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (ฝิ่นดิบ) จำนวน 319.5 กรัม กระสุนปืนลูกซอง เบอร์ 12 จำนวน 13 นัด กระสุนปืน ขนาด 9 มม. จำนวน 13 นัด กระสุนปืน ขนาด .22 มม. จำนวน 350 นัด แม็กกาซีน 9 มม. จำนวน 1 ซอง สอบสวนเบื้องต้นชายชาวบ้านให้การว่าไม่มีส่วนรู้เห็นกับยาเสพติด ขออาศัยมากับรถระหว่างทางเท่านั้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่เชื่อนำตัวสอบสวนขยายผลต่อไป

มช.จัดกิจกรรมเดิน วิ่ง ล่าแต้ม

รองศาสตราจารย์ นพ.รณภพ เอื้อพันธเศรษฐ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นประธานเปิดกิจกรรม เดิน วิ่งล่าแต้ม CMU Walk Together โดยมี นางสาววรารักษณ์ พัฒนเกียรติพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักหอสมุด กล่าวรายงาน และรองศาสตราจารย์ ดร.วณิชา พึ่งชมพู หัวหน้าโครงการฯ กล่าวสรุปภาพรวมของโครงการ ซึ่งมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ในฐานะเครือข่ายมหาวิทยาลัยอาเซียน ASEAN University Network (AUN) และ AUN – Health Promotion Network (AUN-HPN) มีนโยบายเพื่อเสริมสร้างความสามารถของมหาวิทยาลัยและขับเคลื่อนสู่การเป็น มหาวิทยาลัยสุขภาพ หรือ Health University Framework

สนับสนุนการดำเนินงานโครงการพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างสุขภาพของบุคลากร โดยมีสำนักหอสมุด เป็นผู้รับผิดชอบโครงการ 3 อ. คือ อาหาร ออกกำลังกาย อารมณ์ ที่จะช่วยให้บุคลากรได้ตระหนักถึงการมีสุขภาพร่างกายที่ดี ห่างไกลจากโรคภัย มีอารมณ์ จิตใจที่สดชื่น แจ่มใส และรู้จักการบริโภคตามหลักแห่งโภชนาการ ใช้ระยะเวลาในการจัดกิจกรรมตั้งแต่เดือนกรกฏาคม – ตุลาคม พ.ศ. 2563 นี้

ป่าสักห้วยทาก อ.งาว จ.ลำปาง ได้รับรางวัลพื้นที่สงวนชีวมณฑลจากยูเนสโก

วันที่ 16 ก.ค. นายพูนสถิตย์ วงศ์สวัสดิ์ ผู้อํานวยการสํานักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลําปาง พร้อมด้วย นางทิพวรรณ เศรษฐพรรค์ ผู้อํานวยการส่วนความร่วมมือระหว่างประเทศ กองการต่างประเทศ และ นายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เข้าพบนายสุรพล บุรินทราพันธุ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดลําปาง เพื่อมอบสําเนาใบประกาศพื้นที่สงวนชีวมณฑล ป่าสักห้วยทาก ให้แก่ทางจังหวัดลําปาง สำหรับพื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าสักห้วยทาก (Huay Tak Teak Biosphere Reserve) ตั้งอยู่ในพื้นที่ของ อ.งาว จ.ลําปาง เป็นพื้นที่ที่ถือว่ามีความสําคัญในระดับนานาชาติ พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าสักห้วยทากประกาศจัดตั้งขึ้นภายใต้โปรแกรม ด้านมนุษย์และชีวมณฑล (Man and the Biosphere Programme) ของยูเนสโก ตั้งแต่ พ.ศ. 2520 ด้วยความโดดเด่น ของพื้นที่ที่เป็นแหล่งไม้สักที่มีพันธุกรรมที่ดีที่สุดของโลกแห่งหนึ่ง และที่ผ่านมาได้แสดงถึงศักยภาพในการเป็นพื้นที่สาธิต ทั้งด้านการสร้างการอนุรักษ์ ส่งเสริมการพัฒนาและสนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้สู่พื้นอื่นๆ ในระดับนานาชาติ

การดําเนินงานที่ผ่านมาของพื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าสักห้วยทากที่ผ่านมาได้รับการสนับสนุน การกํากับดูแล ให้ข้อเสนอแนะโดยทางจังหวัดลําปางและกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ซึ่งเน้นที่การสร้างการรับรู้เกี่ยวกับ ความสําคัญของพื้นที่สงวนชีวมณฑลในจังหวัดลําปาง โดยเฉพาะ การเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับความสําคัญของท้องถิ่น และการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่เยาวชนในพื้นที่ การส่งเสริมความรู้เพื่อพัฒนาการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ในท้องที่ และรับฟังความคิดเห็นของท้องถิ่นถึงทิศทางการพัฒนาที่สร้างความยั่งยืน

ปัจจุบันพื้นที่สงวนชีวมณฑลในประเทศไทย มีจํานวน 4 แห่ง ได้แก่ 1 พื้นที่สงวนชีวมณฑลสะแกราช จ.นครราชสีมา 2 พื้นที่สงวนชีวมณฑลแม่สา-คอกม้า จ.เชียงใหม่ 3 พื้นที่สงวนชีวมณฑลป่าสักห้วยทาก อ.งาว จ.ลําปาง และ 4 พื้นที่สงวนชีวมณฑลระนอง จ.ระนอง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ในฐานะหน่วยงานหลักการ ประสานงานโปรแกรมด้านมนุษย์และชีวมณฑลในประเทศไทย เล็งเห็นถึงประโยชน์ของสถานะพื้นที่สงวนชีวมณฑล ซึ่งเป็นหนึ่งในสามสถานะพื้นที่ที่มีความสําคัญของยูเนสโก (มรดกโลก พื้นที่สงวนชีวมณฑล อุทยานธรณีโลก) ที่จะสนับสนุนการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ อ.งาว จังหวัดลําปาง และพื้นที่อื่น ๆ ในประเทศไทย ผ่านทางแนวคิดของพื้นที่ สงวนชีวมณฑล ที่ต้องการเป็นพื้นที่สาธิต ค้นหาคําตอบในการสร้างสมดุลระหว่างการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และความเจริญของมนุษย์

เกษตรกรภูซางปลื้ม กฟภ.จัดไฟฟ้าให้ใช้ตามโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่เกษตร ระยะที่ 2

16 ก.ค.63 บริเวณลานหญ้าลูซี่กลางทุ่งนาของชาวบ้านก๊อซาว ม.11 ต.ทุ่งกล้วย อ.ภูซาง จ.พะเยา ได้มีการจัดพิธีเปิดโครงการขยายเขตไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางเกษตร ระยะที่ 2 หรือ คขก.2 โดยมีนายประพันธ์ ศรีนวล ผอ.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต.1 จ.เชียงใหม่ เป็นประธานในการเปิดโครงการในครั้งนี้ โดยมีมีนายวิรุฬห์ สิทธิวงศ์ นายอำเภอภูซางและนายสมบัติ แสงทอง ผจก.การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค อ.เชียงคำ รวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทั้ง อ.ภูซาง และอ.เชียงคำให้การต้อนรับ

นายสมบัติ กล่าวว่า ตามที่มีมติของคณะรับมนตรี เมื่อวันที่ 31 พ.ค.63 ได้เห็นชอบให้ กฟภ.ได้ดำเนินโครงการขยายเขตที่ดินทำกินทางเกษตรระยะที่ 2 ซึ่งมีเป้าหมายทั้งหมด 40,600 ราย ในพื้นที่ 74 จังหวัดโดยมีระยะเวลาในการดำเนินโครงการตั้งแต่ปี 59-63 และจัดสรรงบที่ทำโครงการนี้อยู่ทั้งหมด 2,030 ล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเป็นการจัดหาบริการไฟฟ้าให้พื้นที่ทำกินทางเกษตรและยังสนับสนุนผลผลิตทางการเกษตรกรรายย่อยด้วย ในส่วนของ จ.พะเยา ทาง กฟภ.สาขาเชียงคำและภูซาง ได้ลงพื้นทีทำการสำรวจชาวบ้านทั้ง 2 อำเภอและได้ที่ชุมชนบ้านก๊อซาว ม.11 แห่งนี้โดยระยะแรกมีเกษตรกรที่ต้องการไฟฟ้าใช้ในพื้นที่การเกษตรทั้งสิ้น 47 รายและได้ครอบคลุมพื้นที่ทางการเกษตรทั้งสิ้น 215 ไร่ ทั้งนี้ทาง กฟภ.เขต 1 จ.เชียงใหม่ ได้ทำการจัดสรรงบประมาณดังกล่าวจำนวน 1,314,065 บาท มาให้ทาง กฟภ.สาขาอ.เชียงคำและอ.ภูซางในการเริ่มทำโครงการดังกล่าวนี้โดยได้ทำการขยายระบบเขตจำหน่ายไฟฟ้าแรงสูง 0.950 วงจร.กิโลเมตรและระบบจำหน่ายไฟฟ้าแรงต่ำ 2.60 วงจร.กิโลเมตร หม้อแปลง 1 เฟส ขนาด 30 KVA จำนวน 1 เครื่อง และโครงการนี้ก็ได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากอำเภอภูซาง อบต.ทุ่งกล้วยรวมทั้งผู้นำชุมชนในพื้นที่เช่นกัน

ทางด้านนายวิรุฬห์ ได้กล่าวเสริมว่า เมื่อ 2 ปีก่อนทางผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้เข้ามาปรึกษาหารือกับตนเองว่าระบบไฟฟ้าเข้าไม่ถึงที่ทำการเกษตรทำให้พื้นที่การเกษตรนั้นทำงานด้วยความยากลำบากโดยพื้นที่แห่งนี้ส่วนใหญ่ชาวบ้านจะปลุกผักปลอดสารพิษทั้งนั้น ซึ่งตนเองเห็นว่าไฟฟ้านั้นย่อมมีความสำคัญในทุกพื้นที่จึงได้ทำหนังสือขอไฟฟ้าไปยังทาง ผจก.กฟภ. สาขา เชียงคำ เกี่ยวกับในเรื่องนี้ และสุดท้ายทางผจก.กฟภ.เชียงคำก็ได้เดินเรื่องให้และสุดท้ายก็ได้ไฟฟ้ามาให้ชาวบ้านในพื้นที่ใช้ในที่สุด ทั้งนี้ตนดีใจมากที่ทางการไฟฟ้าได้เล็งเห็นความสำคัญในเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน และตนเองหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลังจากนี้ชาวบ้านจะนำไฟฟ้าไปใช้ในทางเกษตรให้เกิดประโยชน์อย่างมากที่สุด

สาธารณสุข จ.ลำปาง เข้มป้องกันไข้เลือดออกระบาดหลังพบผู้เสียชีวิต1ราย

 

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงกรณีที่พบผู้เสียชีวิต 1 ราย จากไข้เลือดออก พบเป็นผู้ป่วยหญิง อายุ 17 ปี อาศัยอยู่ในเขตพื้นที่ อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง โดยผู้ป่วยคนดังกล่าวได้มาพบแพทย์เพื่อทำการตรวจ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2563 ด้วยอาการไข้ โดยแพทย์ได้วินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออก โดยวันแรกที่รับการตรวจ ผู้ป่วยยังมีอาการที่ดี จึงได้ให้ยา และนัดรักษาเพื่อสังเกตอาการต่อเนื่องในวันที่ 5 กรกฎาคม 2563 โดยผู้ป่วยมีอาการอยู่ในเกณฑ์ที่ดี แต่เริ่มมีอาการปวดท้อง ทางแพทย์จึงได้ให้พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล หลังจากนั้นอีกไม่ถึง 48 ชั่วโมง อาการแย่ลงอย่างรวดเร็ว โดยแพทย์ได้นำเข้ารักษายังห้อง ICU และรักษาในทุกรูปแบบเต็มที่ แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตผู้ป่วยไว้ได้ ทำให้ผู้ป่วยเสียชีวิตลงเมื่อเวลา 03.00 น. ของวันที่ 8 กรกฎาคม 2563

นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง กล่าวอีกว่า การเสียชีวิตในครั้งนี้ถือเป็นบทเรียนที่น่าสนใจ ถึงแม้ในพื้นที่จังหวัดลำปางพบผู้ป่วยเพียง 220 ราย ซึ่งถือว่าอยู่ในอันดับท้ายๆ ของประเทศ แต่ในระยะนี้ประชาชนอาจจะชะล่าใจในการป้องกัน ซึ่งต่อจากนี้ขอให้ประชาชนให้ความสนใจในการป้องกันโรคติดต่อนำโดยยุงลาย เนื่องจากมีฝนตกในหลายพื้นที่ ซึ่งเอื้อต่อการขยายพันธุ์ของยุงลายเป็นอย่างมาก ต้องมีการเก็บกวาดแหล่งอาศัยของยุง รวมถึงแหล่งน้ำขังจะต้องดำเนินการกำจัดให้หมดไป

“เทศตำบลสันมหาพน” เห็นใจปชช.มอบถุงยังชีพชาวบ้านรับผลกระทบเชื้อโควิด-19

 

นายสฤษดิ์ ชื่นจิตต์ นายกเทศมนตรีเทศตำบลสันมหาพน อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ในฐานะประธานกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลสันมหาพนพร้อมด้วย คณะผู้บริหาร สมาชิกสภาเทศบาล หัวหน้าส่วนราชการและพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้ร่วมกันมอบถุงยังชีพ เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางสังคมที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา (โควิด-19)สำหรับสมาชิกกองทุนสวัสดิการชุมชนเทศบาลตำบลสันมหาพน รวม 12 หมู่บ้าน

นายกเทศมนตรีตำบลสันมหาพน กล่าวถึงอันตรายที่จะมาถึงเกี่ยวกับภัยพิบัติทางสุขภาพเชื้อโควิดว่า ถึงแม้ในประเทศไทยจะไม่มีแล้วคือเป็นศูนย์ไม่มีผู้ติดเชื้อและรักษาหายกันแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังกันอย่างต่อเนื่อง เพราะทั้งแรงงานต่างด้าวและผู้เล็ดลอดเข้าเมืองในช่องทางต่าง บางแห่งขาดการคัดกรอง เพราะฉะนั้นการเฝ้าระวังและย้ำเตือนพี่น้องประชาชนชาวตำบลสันมหาพน อ.แม่แตง ขอให้ทุกคนเว้นระยะห่างทางสังคม ป้องกันตนเองและครอบครัวให้ดีที่สุดอย่าประมาทไม่เข้าไปในสังคมที่แออัด หากรู้สึกเป็นไข้ไม่สบายขอให้ไปพบแพทย์เพื่อตรวจร่างกาย

การช่วยเหลือจากคณะผู้บริหารเทศบาลฯ และเทศบาลเองจะทำอย่างต่อเนื่องจนกว่าสถานการณ์ทุกอย่างจะเป็นปกติ ยอมรับว่าปัญหาการขาดแคลนและปัญหาเศรษฐกิจกระทบกันทุกหย่อมหญ้าทุกครัวเรือน ขอให้ทุกคนอดทนและร่วมกันต่อสู้ฝ่าฟันกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในปัจจุบันให้ผ่านพ้นไปด้วยกันด้วยความปลอดภัยกันทุกคนทุกครัวเรือน

มอบสิ่งของถุงยังชีพให้คนไร้รัฐ

15 ก.ค.63 ที่วัดกุงเปา ต.ปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน นายพงศ์พีระ ชูชื่อน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จากสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด19 ที่แพร่กระจายไปทั่วประเทศ และจังหวัดแม่ฮ่องสอนก็เป็นกอีกจังหวัดหนึ่งที่ติดชายแดนไทย-เมียนมา มีคนไร้รัฐ ไร้สัญชาติเข้ามาอยู่อาศัยไม่น้อย ทั้งที่ได้สัญชาติและไม่ได้สัญชาติ หลายคนมาตั้งรกรากมีครอบครัว บางคนมาหางานทำ ซึ่งคนไร้รัฐไร้สัญชาติเหล่านี้ ก็เป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด19 ต้องตกงานไม่มีรายได้ และขาดที่พึ่งยากที่จะเข้าถึงสวัสดิการ การเยียวยาของรัฐบาล

นายพงศ์พีระ ชูชื่น นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน จึงได้ร่วมกับเครือข่ายอาสาชุมชนเพื่อคนไร้รัฐไร้สัญชาติ องค์การยุติธรรมนานาชาติ ตัวแทนชุมชนในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้นำถุงยังชีพ ประกอบไปด้วย ข้าวสาร อาหารแห้งมามอบให้ ในพื้นที่ อ.เมืองแม่ฮ่องสอน จำนวน 230 ชุด นอกจากนี้ยังได้มอบให้คนไร้รัฐในพื้นที่ อ.ปาย 65 ชุด และ อ.ปางมะผ้า 152 ชุด และอำเภออื่น ๆ รวมทั้งสิ้น 600 ชุด เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนผลกระทบจากโควิด19