ฝากความหวังนโยบาย”ลุงตู่”เปิดประเทศภายใน120วันผู้ประกอบการรถตู้และท่องเที่ยววอนรัฐช่วยเจรจาเจ้าหนี้ยืดเวลาชำระหนี้180วันมั่นใจหลังเปิดประเทศมีนักท่องเที่ยวเข้ามาหาเงินมาใช้ได้แน่นอน

ที่หน้าศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ได้มีกลุ่มรถเช่า รถบริการนักท่องเที่ยว ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจ.เชียงใหม่ รวมตัวกันกว่า 50 คน เพื่อยื่นหนังสือถึงศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงใหม่ ให้ช่วยเหลือเรื่องผ่อนผันและยืดการชำระหนี้ จากบริษัทไฟแนนซ์ และสถาบันการเงิน หลังจากขาดสภาพคล่องเนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19

ตัวแทนกลุ่มฯเปิดเผยว่า จากกรณีที่นายกรัฐมนตรีได้มีการแถลงข่าวการเปิดประเทศ ภายใน 120 วัน เพื่อให้มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในประเทศไทย แม้ว่าอาจจะมีความเสี่ยงอยู่บ้าง แต่เพื่อให้เศรษฐกิจการท่องเที่ยวได้เดินหน้า และได้ต่อลมหายในแก่ผู้ประกอบอาชีพด้านการท่องเที่ยว ซึ่งที่ผ่านมา ผู้ประกอบอาชีพการท่องเที่ยวและรถเช่า ได้อดทนมาเป็นเวลาปีกว่ากับการขาดรายได้ และรายรับเป็นศูนย์ บางคนล้มหายตายจาก บางคนปลิดชีพตัวเอง อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ที่ผ่านมาทำให้เราต้องมีการขอชะลอการชำระหนี้ ซึ่บางรายเป็นคดีอยู่ในชั้นศาล มีบางคนโดนยึดรถไป กลายเป็นบุคคลล้มละลาย ดูแล้วไม่ค่อยเป็นธรรมเท่าไร เราลำบากเพราะพิษโควิดอยู่แล้ว ก็ต้องมาเจอความลำบากซ้ำซ้อนอีก ไฟแนนซ์อาจจะชนะคดี แต่ผู้ประกอบการท่องเที่ยวบางรายอาจจะฆ่าตัวตายในยามที่ท่านชนะคดี โดยไม่มีช่องทางที่จะต่อสู้ได้ในช่วงวิกฤติพิษโควิด 19 ปิดประเทศนี้ พวกเราขาดสภาพคล่องทางการเงิน โดนยึดบ้านยึดรถ ที่เป็นเครื่องมือทำมาหากินเลี้ยงครอบครัว เพราะประเทศยังปิด แต่ตอนนี้ได้รับข่าวดีเรื่องการเปิดประเทศใน 120 วัน ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยว เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวสร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการด้านท่องเที่ยวและสร้างรายได้ให้กับประเทศชาติ

ดังนั้นกลุ่มผู้ประกอบการท่องเที่ยว จึงขอความอนุเคราะห์ไฟแนนซ์ สถาบันการเงอน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขอให้ท่านได้ชะลอการเรียกเก็บหนี้จากพวกเราลูกค้าของท่านที่กำลังประสบความเดือดร้อน พวกเราขอทำการพักชำระหนี้ จากกรอบระยะเวลา 120 วันที่ท่านนายกรัฐมนตรีบอกไว้ว่าจะเปิดประเทศ จะเริ่มมีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย ซึ่งผู้ประกอบการจะใช้เวลา 60 วัน หลังจากเปิดประเทศในการหาเงิน เพื่อผ่อนชำระยอดที่ค้างไว้กับทางไฟแนนซ์ได้ และเพื่อให้ได้ผ่อนคลายทั้งสองฝ่าย ทางกลุ่มผู้ประกอบการจึงได้มายื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมเพื่อขอให้ช่วยเหลือจากสถาบันการเงิน และไฟแนนซ์ ช่วยยืดอายุการชำระออกไป ทางผู้ประกอบการต้องการพักชำระหนี้ และขอความเห็นใจและเข้าใจแก่พวกเราด้วย ถอยอีกสักก้าว เพื่อให้พวกเราลูกค้าของท่านและไฟแนนซ์ท่านเองอยู่ได้ ท่านจะได้ไม่ต้องไปเสียงบนำรถไปประมูลขายทอดตลาด ซึ่งเป็นรถที่ผู้ประกอบการอุตส่าห์หามาด้วยความยากลำบาก และเข้าใจว่าไฟแนนซ์ทำธุรกิจ ไม่ใช่มูลนิธิการกุศล แต่พวกเราลูกค้าของท่านอยากขอความช่วยเหลือจากท่านอีกสักครั้ง พวกเราขอความเห็นใจ กลุ่มผู้ประกอบการท่อเที่ยวกล่าวในที่สุด

คุมตัวผจก.ฝ่ายขายรถยนต์ก่อเหตุบุกเดี่ยวชิงทรัพย์แบงก์กรุงเทพฯสาขาโลตัสเชียงของทำแผนหลังถูกออกหมายจับทนแรงกดดันไม่ไหวมอบตัวกับตำรวจ

 

ที่ห้างโลตัส สาขาเชียงของ จ.เชียงราย พ.ต.อ.ชัยยุทธ ฉิมพลี ผกก.สภ.เชียงของ พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงของ นำตัว นายอุทิศ อายุ 32 ปี ชาว ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย มาทำแผนประกอบคำรับสารภาพการจี้ชิงเงินสดที่ธนาคารกรุงเทพฯ สาขาโลตัสเชียงของ หลังจากเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อเช้าวันนี้ (17 มิย.64)โดยมีชาวบ้านและประะชาชนพากันมามุงดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นจำนวนมาก

โดยช่วงเช้าที่ผ่านมา พ.ต.อ.ชัยยุทธ ฉิมพลี ผกก.สภ.เชียงของ ได้รับการประสานจากผู้ใหญ่บ้านเวียงหมอก หมู่ 10 ต.ห้วยซ้อ อ.เชียงของ จ.เชียงราย เพื่อนำนายอุทิศ เข้ามอบตัว ซึ่งนายอุทิศ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเทิง ที่ 84/2564 ในข้อหาชิงทรัพย์ที่ธนาคารกรุงเทพ สาขาห้างสรรพสินค้าเทสโก้โลตัส อ.เชียงของ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยการลงมือบุกจี้ครั้งนี้ได้เงินสดร่วม 100,000 บาทก่อนหลบหนีไป

 

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายอุทิศ เป็นผู้จัดการขายรถยนต์อยู่ใน จ.เชียงใหม่ แต่ประสบปัญหาทางการเงินจึงได้ลงมือก่อเหตุ หลังก่อเหตุได้ได้หลบหนีไปอยู่ที่บ้านญาติภายในชุมชนห้วยปลากั้ง อ.เมือง จ.เชียงราย และทราบว่ามีการออกหมายจับ จึงได้เดินทางมาที่บ้านเวียงหมอกตั้งแต่ช่วงคืนที่ผ่านมาเพื่อไปหาภรรยา และประสานผู้ใหญ่บ้านให้พามามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ไฟไหม้กุฏิวัดดังแม่แจ่มสลดไฟคลอกพระดับอนาจ1รูป

ร.ต.อ.สำเริง มนฑนม ร้อยเวร สภ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้กุฏิวัดดอยสะกาน หมู่ 3 ต.ช่างเคิ่ง อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบแล้วเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัย และรถดับเพลิงจากเทศบาล

ที่เกิดเหตุซึ่งเป็นกุฏิชั้นเดียวภายในวัดพบเพลิงกำลังโหมลุกไหม้อย่างหนัก ทางเจ้าหน้าที่ระดมรถดับเพลิงกว่า 5 คันฉีดน้ำเพื่อดับไฟที่กำลังลุกไหม้ เพราะทราบว่ามีพระ ติดอยู่ในกุฏิ 1 รูปทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปในกุฏิ แต่เพลิงก็ลุกไหม้อย่างหนักไม่สามารถเข้าไปได้ จนกระทั้งเพลิงได้ไหม้กุฏิวอดหมดทั้งหลัง จึงเข้าไปตรวจสอบพบร่างของพระยงยุทธ สุวฑ.ฒโน อายุ 59 ซึ่งพระยงยุทธ มีโรคประจำตัว เบาหวาน และโรคความดัน สภาพร่างกายอ่อนแอ เดินเหินไม่ค่อยสะดวกหนีไม่ทัน ถูกไฟคลอกเสียชีวิตอย่างน่าสลด

จากการตรวจสอบก็พบว่ากุฏิหลังดังกล่าวอายุกว่า 30 ปีสภาพสายไฟฟ้าภายในเก่าชำรุดหลายจุด ซึ่งพระยงยุทธ จำวัดที่กุฏิหลังนี้มานานกว่า 10 ปีแล้ว ซึ่งสาเหตุการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่ามาจากไฟฟ้าลัดวงจร และเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นซึ่งค่าเสียหายทั้งหมดเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ประเมินไว้หลายแสนบาท ซึ่งจะได้ให้เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดไฟไหม้ครั้งนี้ต่อไป

จับหนุ่มไทยใหญ่ก่อเหตุใช้ถุงผ้าคลุมหัวบีบคอทุบคุณตาวัย82ปีชิงเงินหลบหนีไม่พ้นมือตำรวจประวัติโชกโชนติดคุกมาก่อนหลายคดี

พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม พ.ต.ท.ธนัตถ์ นันศิริ สว.สส.สภ.แม่ริม พร้อมชุดสืบสวน จับกุมนายหล้า ไม่มีนามสกุล อายุ 35 ปีชาวไทยใหญ่ สัญชาติเมียนมา ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.357/2564 ลงวันที่ 10 มิ.ย.64 พร้อมของกลางเงินสด 2,000 บาท นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำความผิด เพื่อการพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุมและเป็นเหตุให้ผู็อื่นได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ”

สืบเนื่องมาจกาช่วงเที่ยงวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีนายมานพ ศิริพันธ์ อายุ 82 ปีบ้านอยู่ ต.แม่สา อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ได้เข้าแจ้งความกับร้อยเวร สภ.แม่ริม ว่าได้มีคนร้ายจำนวน 2 คนทราบชื่อนายแดง และนายหล้า ขับขี่รจักรยานยนต์ มาจอดที่บริเวณหอพัก ต.แม่สา อ.แม่ริม คนร้ายทั้งสองคนจะเดินเข้ามาใช้ถุงผ้า มาคลุมหัวนายมานพ แล้วใช้กำลังล็อกแขนล็อกขา บีบคอ ก่อนล้วงเอาเงินสดในกระเป๋ากางเกงจำนวน 13,440 บาท แล้วหลบหนีไป หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุและตรวจสอบภาพวงจรปิดก็พบว่าคนร้ายทั้งสองเคยพักอาศัยที่หอพักใกล้เคียงที่เกิดเหตุ จึงเสนอศาลออกหมายจับและติดตามล่าตัวก็พบนายหล้า ได้หลบหนีไปที่พื้นที่บ้านเมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ส่วนนายแดง กำลังติดตามจับกุมตัวอยู่

จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าเดิมเข้ามาเมืองไทยเพื่อทำงานรับจ้างทั่วไป ก่อสร้าง แต่ก็เคยถูกจับกุมในคดีลักทรัพย์ และคดียาเสพติด พอออกมาหวังกลับตัวเป็นคนดี หางานสุจริตทำ แต่เพราะจากปัญหาโควิดรุมเร้าทำให้ตกงาน ไม่มีเงินใช้ จึงตัดสินใจก่อเหตุร้ายนี้ขึ้นเพราะรู้ว่าผู้เสียหายเป็นคนมีเงินพอได้เงินมาก็แบ่งกันและก็หลบหนีจนถูกจับกุมในที่สุด

เตรีมเปิด”ดอยจิกจ้อง”แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติแห่งใหม่ของอำเภอปางมะผ้าสัมผัสความสวยงามสูงจากระดับน้ำทะเล1,933เมตรอากาศเย็นสบายชมพระอาทิตย์อัสดงเดินป่าศึกษาธรรมชาติชมวิว360องศาแลนด์มาร์คแห่งใหม่การท่องเที่ยวเมืองสามหมอก

นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอน พร้อมด้วย นายนิกรน แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย นายสันติพงษ์ บุลยเลิศ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแม่ฮ่องสอน นายโยธิน ทับทิมทอง ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานแม่ฮ่องสอน นายชีวิน ศรัทธา ประชาสัมพันธ์ จังหวัดแม่ฮ่องสอน ร่วมกันสำรวจพื้นที่ ดอยจิกจ้อง ต.สบป่อง อ.ปางมะผ้า จ.แม่ฮ่องสอน สัมผัสแหล่งท่องเที่ยวด้านการอนุรักษ์สัตว์ป่า ตามโครงการพัฒนาศักยภาพแหล่งท่องเที่ยว การเรียนรู้ด้านสัตว์ป่า เพื่อพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และให้สอดคล้องกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ และสัตว์ป่าในพื้นที่ ให้เกิดความสมดุลของระบบนิเวศ

ดอยจิกจ้อง ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งสามารถเดินทางด้วยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อ แยกจากจุดชมวิวกิ่วลมอำเภอปางมะผ้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ประมาณ 6 กิโลเมตร ซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลถึง 1,933 เมตร สามารถชมวิวโดยรอบ 360 องค์ศา และมีลมพัดอากาศเย็นตลอดทั้งปี
นายภานุเดช ไชยสกูล นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดแม่ฮ่องสอนกล่าวว่า ดอยจิกจ้อง อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายอยู่ในพื้นที่ของอำเภอปางมะผ้าจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่สำคัญเป็นทางผ่านซึ่งแยกขึ้นมาจากจุดชมวิวกิ่วลมที่นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่มักจะแวะเยี่ยมชมอยู่แล้ว และ ถ้าหากว่า ทาง เขตอนุรักษาพันธุ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย เปิดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวก็จะสามารถดึงดูดให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในจังหวัดแม่ฮ่องสอนเพิ่มขึ้นและจะเป็นแลนด์มาร์คแห่งใหม่ของอำเภอปางมะผ้า จังหวัดแม่ฮ่องสอน เนื่องจากจะเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สวยงามและระหว่างทางขึ้นไปที่ดอยจิกจ้องที่มีความสูง 1,933 เมตร จะมีจุดชมวิวหลายจุดด้วยกัน เช่น เนินสวรรค์ชั้น 2 จะสามารถมองเห็นตัวอำเภอปาย และ ปางมะผ้า ที่ห่างออกไปถึง 26 กิโลเมตร จุดชมวิวหินเดียวดาย จุดชมวิวต้นสารภีเคียงกัน ซึ่งจะมีดอกที่มีกลิ่นหอม และพอถึงที่ทำการของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย ซึ่งได้จัดให้มีลานกางเต้นท์สำหรับนักท่องเที่ยว ได้สัมผัสกับธรรมชาติภูเขาและวิว 360 องศา และนอกจากนั้นยังมีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติสัตว์ป่า และ แหล่งต้นน้ำที่มีน้ำพุ่งออกมาจากบนยอดเขาที่สูงกว่า 1,933 เมตร อยู่ตลอดเวลา บ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าไม้ที่สามารถอุ้มและซับน้ำไว้ได้ตลอดทั้งปี เป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งซึ่งถ้าจะเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมและได้พักค้างคืนสัมผัสธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์ ก็จะเป็นแลนด์มาร์คอีกแห่งของจังหวัดแม่ฮ่องสอน

ทางด้านนายนิกร แก้วโมรา หัวหน้าเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปาย กล่าวว่า จะเปิดพื้นที่ของ ดอยจิกจ้อง ซึ่งมีความสูงถึง 1,933 เมตร ธรรมชาติที่ยังอุดมสมบูรณ์และสวยงาน วิว 360 องศา และอากาศเย็นตลอดทั้งปี เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ในอนาคตอันใกล้นี้ ซึ่งทาง เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าลุ่มน้ำปายได้มีพื้นที่ที่สวยงามและ ต้องการที่จะเป็นให้นักท่องเที่ยวได้เข้าชมเพื่อที่จะสร้างรายได้ทางการท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นให้กับจังหวัดแม่ฮ่องสอนอีกแห่งหนึ่งทาง สำนัก ฯ รอความพร้อมและจะพยายามเร่งดำเนินการเปิดให้ทันในปี 2564 นี้

จับอดีตพระลูกวัดฉกพระพุทธรูปล้ำค่า7องค์ไปจำนำ2แสนบาทเช่าเก๋งบีเอ็มซีรีส์7ขับอวดสาวกรุงตำรวจแม่ริมตามลากคอดำเนินคดีข้อหาหนัก

พ.ต.อ.มาโนช สุดสวาสดิ์ ผกก.สภ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวนสภ.แม่ริม จับกุมนายภคพล(หรืออดีตพระภคพล) อายุ 21 ปี ชาวจ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ ที่ 388/2564 ลงวันที่ 2 มิ.ย.64 ในข้อหา”ร่วมกันลักทรัพย์ที่เป็นพระพุทธรูปหรือวัตถุในทางศาสนา ซึ่งเป็นที่สักการะบูชา ของประชาชน ในวัดในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ เพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด การพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุมหรือรับของโจร”

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 2 มิ.ย.64 ที่ผ่านมาได้มีคนร้ายก่อเหตุโจรกรรมพระพุทธรูปในวัดป่าดาราภิรมย์ พระอารามหลวง ต.ริมใต้ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบที่เกิดเหตุบริเวณหอพระกรรมฐานชาตกาล 100 ปี ภายในวัดพบว่ามีพระพุทธรูปจำนวน 7 องค์ ได้สูญหายไปซึ่งเป็นพระพุทธรูปเก่าแก่ล้ำค่าของทางวัด จากการสืบสวนพบว่ามีคนนำพระพุทธรูปดังกล่าว ไปจำนำไว้ที่อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ในราคา 2 แสนบาท จึงมีการออกหมายจับนายภคพล และก็พบว่าได้หลบหนีไปอยู่กรุงเทพฯ จึงได้ติดตามไปจับกุมได้พื้นที่ สน.ดอนเมืองนำตัวมาสอบสวนที่สภ.แม่ริม ทราบว่าผู้ต้องหาเดิมได้บวชเป็นพระ ที่อ.พร้าว และไปศึกษาพระธรรมหลายวัดทั่วประเทศ จนมาเรียนภาษาบาลีที่วัดป่าดาราภิรมย์ ได้ประมาณ 2 เดือนพบเห็นพระล้ำค่ำในวัด ก็เกิดความโลภจึงขโมยแล้วนำไปจำนำพอได้เงินมาก็นำไปเช่ารถเก๋งบีเอ็มซีรีส์ 7 ขับใช้ชีวิตหรูหราที่กรุงเทพฯจนถูกจับกุม

กองกำลังผาเมืองจับอีกแรงงานต่างด้าว7คนเตรียมลอบข้ามแดนกลับประเทศเมียนมาผ่านชายแดนอ.ฝางจ.เชียงใหม่หลังหนีเข้าไทยแต่ไม่มีงานทำจำใจกลับบ้านเกิด

พล.ต.นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมืองจับกุมแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา 7 คน ขณะตั้งจุดตรวจจุดสกัดกั้น บริเวณสามแยกดอยอ่างขาง ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และได้ตรวจพบรถยนต์กระบะสีขาว หมายเลขทะเบียน ก 2304 เชียงใหม่ ขับผ่านมา โดยมี นายทุนเอ ดอนแก้ว เป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว ซึ่งพบว่าด้านหลังกระบะรถมีแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งมา 7 คน เป็นหญิง 4 คน เป็นชาย 3 คน อายุระหว่าง 20 – 60 ปี ทั้งหมดเดินทางมาจากประเทศเมียนมา และไม่มีเอกสารในการเข้ามาอยู่ในประเทศไทย จากการสอบถามทราบว่า ได้ลักลอบข้ามแนวชายแดนผ่านเส้นทางธรรมชาติเข้ามาในประเทศไทยเพื่อหางานทำ แต่เข้ามาแล้วหางานทำไม่ได้และไม่มีที่อยู่ ประกอบกับเจ้าหน้าที่ไทยมีการเข้มงวดกวดขันอย่างมาก จึงจะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาประเทศเมียนมา โดยใช้เส้นทางช่องทางเขาหัวนก ขณะที่นายทุนเอ ดอนแก้ว ผู้นำพาชาวไทย ให้การยอมรับว่าไปรับกลุ่มแรงงานต่างด้าว ที่บริเวณแยกวัดหาดสำราญ อำเภอฝาง เพื่อไปส่งยังพื้นที่บ้านปางม้า ได้รับค่าจ้างคนละ 500 บาท แต่มาถูกจับกุมเสียก่อน

ผบ.กองกำลังผาเมือง กล่าวต่อว่า ปัจจุบันพบว่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ มีเส้นทางการลักลอบหลบหนีจากพื้นที่ชายแดน 2 เส้นทาง ได้แก่เส้นทางจากอำเภอฝาง – อำเภอไชยปราการ และเส้นทาง จากอำเภอเชียงดาว – อำเภอแม่แตง เพื่อเข้าพื้นที่ตอนในของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งนี้ใน 6 จังหวัดภาคเหนือที่กองกำลังผาเมืองรับผิดชอบตามแนวชายแดนมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดกว่า 97 จุด โดยเป็นจุดตรวจ 70 จุด จุดตรวจร่วม 16 จุด รวมทั้งด่านตรวจร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ จำนวน 11 จุด เพื่อสกัดกั้นแรงงานต่างด้าว ลดปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ตามแนวชายแดนอย่างต่อเนื่อง พล.ต.นฤทธิ์ กล่าวในที่สุด

ตลาดยาบ้าภาคเหนือดั๊มป์ราคาลงสุดๆขายส่งเม็ดละ9บาทสองผัวเมียหวังรวยทางลัดเปิดขายทางไลน์สืบภาค5ล่อซื้อรวบยกแก๊งพร้อมของกลาง2หมื่นเม็ด

พ.ต.อ.มานพ คนหลัก ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.วิษณุ บุญมา สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 จับกุมตัวนายวุฒิชัย อายุ 36 ปีชาว อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ น.ส.สุดาพร อายุ 25ชาว อ.สารภี จ.เชียงใหม่ นายสมยศ อายุ 39 ปี ชาว อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 20,000 เม็ด โทรศัพท์มือถือจำนวน 3 เครื่อง รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ารุ่นวีออส สีขาว หมายเลขทะเบียน งฉ 4372 เชียงใหม่ รถจักยานยนต์จีพีเอ็ก สีดำ หมายเลขทะเบียน 1กล 6743 เชียงใหม่ จำนวน 1 คัน เงินสดจำนวน 51,000 บาท นำตัวดำเนินดคีข้อหา”ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ชุดสืบสวนภาค 5 ได้รับแจ้งว่ามีสองผัวเมีย ตั้งตัวเป็นเอเย่นต์ค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ อ.ลี้ จ.ลำพูน จึงส่งสายลับเข้าไปตรวจสอบพฤติกรรม ก็พบว่าทั้งสองคนมีไลน์ แซทใช้ชื่อบัญชีว่า “sp” ในการลักลอบค้ายาเสพติด จึงทำการสั่งซื้อยาบ้า ซึ่งผู้ต้องหาบอกกับสายลับว่ามียาเหลือล็อตนี้จำนวน 20,000 เม็ดขายเพียง 300,000 บาท ตกราคาเม็ดละ 15 บาท จึงตกลงซื้อขายโดยที่ผู้ต้องหาทั้งสามคนไม่รู้ว่าเป็นสายตำรวจล่อซื้อ จึงนำยาบ้ามาส่งขายที่บริเวณริมถนนแยกเหมืองง่า ถนนสาย 1136 หมู่ 2 ต.เหมืองง่า อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูนจึงจับกุมทั้งหมด จากการสอบสวนทราบว่านายสมยศ เป็นเอเย่นต์ใหญ่รับยาบ้ามาเม็ดละ 9 บาทแล้วนำมาส่งขายให้กับนายวุฒิชัย และนางสาวสุดาพร เม็ดละ 10 บาท ก่อนที่ทั้งสองจะนำขายส่งให้กับเอเย่นต์ต่างๆในจังหวัดลำพูนและเชียงใหม่เม็ดละ 15 บาทเพื่อค้ากำไร โดยทำมานานจนมีฐานะกระทั่งถูกจับกุมดังกล่าว

กองปราบบุกทลายบ่อนพนันออนไลน์กลางเมืองเชียงใหม่แอบเปิดซุกย่านถนนนิมมานเหมินท์ตบตาตำรวจเงินหมุนเวียนเดือนละ25ล้านเร่งล่าผู้บงการมาดำเนินคดี

พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม ผบก.ป. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามนำหมายค้นของศาลจังหวัดเชียงใหม่ เข้าตรวจค้นชั้น 2 อาคารหรูแห่งหนึ่ง ย่านถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 7 ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ภายหลังสืบทราบว่าเปิดเป็นสำนักงานของ 3 เว็บไซต์พนันออนไลน์ “IMIBIG, TMR88 และ TS365”

เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ก็พบเป็นอาคารหรู 2 ชั้น ข้างบนแยกเป็นห้องทำงานพบพนักงานชาย-หญิง จำนวน 12 คนทำหน้าที่เป็นแอดมิน กราฟฟิคดีไซน์ และผู้จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ผ่านโซเซียลมีเดีย พบของกลางคอมพิวเตอร์จำนวน 11 เครื่อง บรรดาพนักงานจำนวน 12 คน กำลังง่วงอยู่กับการอัพเว็บโฆษณาเชิญชวน และจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้า รับฝากถอนเงินในเว็บไซต์ ซึ่งเว็บดังกล่าวมีการพนันมากกว่า 50 ชนิดทายผลฟุตบอล บาคาร่า เสือมังกร ไฮโล ป๊อกเด้ง สล็อต และอื่นๆจากการสอบสวนทราบว่า สถานที่นี้ตั้งเป็นสำนักงานเว็บไซด์พนันออนไลน์ โดยดูแลจัดการจำนวน 3 เว็บไซต์ ที่มีการรับพนันหลายรูปแบบในชื่อ “IMIBIG, TMR88 และ TS365” โดยพนักงานทั้งหมดจะทำหน้าที่ดูแลระบบของเว็บ ทำหน้าที่เพิ่มข้อมูลบัญชีลูกค้า ตรวจสอบบัญชีลูกค้าและการโอนเงินเข้าออกระบบ และดูแลระบบต่างๆของเว็บไซต์ อีกส่วนทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดียต่าง ๆ โดยใช้บัญชี Face book และโปรแกรมแซทต่างๆ

โดยบ่อนแห่งนี้มีนาย น.(นามสมมุติ) เป็นเจ้าของขณะบุกจับกุมไหวตัวทันหลบหนีไปได้ นาย น.ได้มาเช่าอาคารหรู ในย่านธุรกิจดังของเชียงใหม่ เพื่อหวังตบตาเจ้าหน้าที่โดยทำมานานกว่า 1 ปีให้เงินเดือนพนักงานคนละ10,000 – 15,000.บาท มีลูกค้ามากกว่า 5,000 คนมีเงินหมุนเวียนเล่นในรอบเดือนมากกว่า 25 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อหาผู้ต้องหาทั้ง 12 คนว่า”ร่วมกันจัดให้มีการเล่น หรือช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาต พนันผ่านสื่ออิเล็คทรอนิค พนันเอาทรัพย์สินกันโดยไม่ได้รับอนุญาต” นอกจากนี้ยังทราบว่านาย น. เคยเปิดเว็บไซ์พนันชื่อ”“UFA78” ในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และถูกตำรวจบุกจับกุมปี 62 ที่ผ่านมาก่อนย้ายฐานปฏิบัตการมาเปิดแห่งใหม่ จนถูกเจ้าหบุกทลายอีกรอบ ซึ่งตำรวจกำลังขยายผลติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

จับนักศึกษาปี3งัดร้านทองเอาเงินที่พ่อแม่ส่งมาให้ใช้เล่นเว็บพนันจนหมดตัวสิ้นคิดงัดร้านทองฉกทรัพย์สินหลายรายการหวังต่อทุนและใช้จ่ายระหว่างเรียนแต่ถูกตำรวจตามรวบหมดอนาคต

พ.ต.ท.นิรันดร์ ถูกแผน รอง ผกก.สส.สภ.แม่ปิง พร้อมชุดสืบสวนสภ.แม่ปิง ทำการจับกุมตัวนายวร (นามสมมุติ) อายุ 19 ปีชาว จ.สุโขทัย นักศึกษาชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยมีชื่อแห่งหนึ่งใน จ.เชียงใหม่ ในข้อหา”ลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ลักทรัพย์โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์” ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดเชียงใหม่ที่ จ.321/2564 ลงวันที่ 27 พ.ค.64 พร้อมของกลางเงินสด 1,500 บาทพระเครื่องอีกกว่า 100 องค์ ไอแพด 1 เครื่อง

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเมื่อค่ำคืนวันที่ 26 พ.ค.64 ได้มีคนร้ายบุกเข้าไปทางช่องทางหลังคาด้านหลังของร้านทองชื่อดัง จำนวน 2 ร้านที่ย่านถนนสายเชียงใหม่-ลำพูน ต.หนองหอย จ.เชียงใหม่ ก่อนคนร้ายจะงัดแงะเอาพระเครื่องเลี่ยมทอง เงินสดที่ไว้ในลิ้นชักโต๊ะ 1 หมื่นกว่าบาท แล้วหลบหนีไป หลังรับแจ้งทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนสอบสวนก็พบว่าคนร้ายใช้ยานพาหนะเป็นรถจยย.ฮอนด้าดรีมสีแดงขาวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน และพบเส้นทางหลบหนีไปจอดที่หอพักไม่มีชื่อ ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงรวบรวมขออนุมัติศาลออกหมายจับแล้วจับกุมสอบสวนผู้ต้องหาทราบว่าระหว่างเรียนก็ติดเล่นการพนันจากเว็บพนันออนไลน์ เอาเงินค่าเล่าเรียน ค่ากินค่าอยู่ที่พ่อแม่ส่งมาให้มาเล่นจนเสียจนหมดตัว ทำให้หน้ามืด จึงหันมางัดแงะร้านทองเพราะหวังนำเงินมาใช้จ่ายระหว่างเรียนจนถูกจับในที่สุด