จับสองสมุนเครือข่ายจะลอโบและวีระหมื่นจะดาพร้อมของกลางยาบ้า6ล้านเม็ดเร่งขนเข้าไทยก่อนฤดูฝนสั่งสกัดทุกช่องทางแนวตะเข็บชายแดน

ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภาค 5 พล.ต.ต.ชินวิช วิขัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.ต.อ.มานพ เสนากุล รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเชียงราย พ.ต.อ.รัฐพล น้อยช่างคิด ผกก.สส.ภ.จว.เชียงราย และ พ.ต.อ.ถนัด ชุ่มมโน ผกก.สภ.เชียงแสน จ.เชียงราย นายประเสริฐ จิตต์พลีชีพ ปลัดจังหวัดเชียงราย นายไกรเลิศ ดาวเรือง ผู้อำนวยการ ป.ป.ส.ภาค 5 ทหารกองกำลังผาเมือง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุมนายจะซือ ลาหู่นะ อายุ 27 ปี ชาว และนายอาบื่อ ยีมือเจ่อ อายุ 26 ปี ทั้งคู่เป็นชาวบ้าน หมู่ 6 ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 6,000,000 เม็ด รถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบรยน กม 5848 เชียงราย รถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กอ 8612 เชียงราย รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อจีพีเอ๊กซ์ สีดำ หมยเลขทะเบียน 1 กภ 5074 เชียงราย และรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า สีดำแดง หมายเลขทะเบียน กต-9043 เชียงราย

โดยการจับกุมครั้งนี้ ทางเจ้าหน้าที่ได้ขยายผลจากตรวจยึดของกลางยาบ้า 200,000 เม็ด ด่านตรวจปูแกง อ.พาน จ.เชียงราย สามารถจับผู้ต้องหา 2 คนได้เมื่อวันที่ 1 พ.ค.ที่ผ่านมา ได้ขยายผลได้ขอหมายจับนายจะซือ ลาหุนะ นายอาบื่อ ยีมือเจ่อ และนายณัฐวุฒิ ลาหุนะ จนกระทั่งสืบทราบว่าทั้ง 3 คน ได้วางแผนลำเลียงยาเสพติดจำนวนมากจากพื้นที่ชายแดน ด้าน อ.แม่ฟ้าหลวง จึงได้ติดตามความเคลื่อนไหว จนกระทั่งกลางดึกวันที่ 25 พ.ค.ทางเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบพบรถยนต์เก๋ง 2 คันที่มีรถจักยานยนต์ 2 คันขับนำหน้าเดินทางมาจากชายแดนไทย-เมียนมา ออกจากบ้านหัวแม่คำ ต.แม่สลองใน อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย จึงออกติดตามกลุ่มดังกล่าวไปโดยพบว่าได้มุ่งหน้าไปทาง อ.เชียงแสน ชายแดนไทย-สปป.ลาว ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ประสานไปยัง เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชียงแสน นำโดย พ.ต.ท.รัชพล สะสม สวป.สภ.เชียงแสน จึงได้นำกำลังตั้งจุดตรวจจุดสกัดเอาไว้ตรงถนนวงเวียนช้างงู ต.เวียง อ.เชียงแสน จนสามารถสกัดขบวนรถเอาไว้พบนายจะซือขับรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นรุ่นวีออส สีเทา หมายเลขทะเบียน กม 5848 เชียงราย ส่วนรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อโตโยต้า สีขาว หมายเลขทะเบียน กอ 8612 เชียงราย ที่ขับตามกันมาได้ขับรถเลี้ยวกลับแต่เสียหลักลงข้างทาง ส่วนคนขับหลบหนีไปได้ ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ขับร่วมขบวนมาด้วยอีก 2 คันก็หลบหนีไปได้เช่นกัน

จากการตรวจสอบในรถยนต์เก๋งทั้ง 2 คัน พบมียาบ้าที่ห่อประทับตรา 999 รวมจำนวน 23 กระสอบ รวมยาบ้า 6,000,000 เม็ด เจ้าหน้าที่ได้ขยายผลไปจับกุมตัวนายจะบื่อ ซึ่งทำหน้าที่ขับรถจักรยานยนต์นำทางได้ที่บริเวณบริษัทแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.เชียงราย และสารภาพว่าได้ร่วมกับพวกอีก 2 คน รับจ้างขนยาเสพติดจากชาวเขาเผ่ามูเซอพื้นที่ อ.แม่ฟ้าหลวง เพื่อนำไปส่งที่ อ.เวียงป่าเป้า จ.เชียงราย เจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อหาร่วมกันกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย

พล.ต.ท.ประจวบ กล่าวว่าช่วงนี้ขบวนการค้ายาเสพติดพยายามลักลอบนำเข้าในทุกจุดทำให้มีการตรวจจับได้หลายรายและมีจำนวนมาก สาเหตุเพราะกลุ่มขบวนการต้องการขนยาเสพติดเข้ามาก่อนที่ฤดูฝนเนื่องจากเส้นทางในประเทศเพื่อนบ้านมีความยากลำบาก เจ้าหน้าที่จึงต้องพยายามสกัดกั้นให้ได้ที่แนวชายแดนยาบ้าจำนวนมากอย่างนี้ถือว่ากลุ่มขบวนการมีการผลิตมาทดแทนได้อย่างรวดเร็วเพราะมีการใช้เทคโนโลยีที่ผลิตได้ครั้งละมากๆ สำหรับเครือข่ายยาเสพติดที่พยายามขนยาบ้าเข้ามาจำนวนมากช่วงนี้มี 2 กลุ่มคือกลุ่มที่ถูกจับกุมได้ที่ จ.ลำปาง และที่ อ.เชียงแสน ที่ผ่านมาเป็นกลุ่มม้งที่มีเครือข่ายจากบ้านม้งเก้าหลัง ต.เทอดไทย อ.แม่ฟ้าหลวง อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย และ อ.พบพระ จ.ตาก ส่วนเครือข่ายกลุ่มลาหู่หรือมูเซอในเชื่อมโยงกับกลุ่มจะลอโบ่ในประเทศเพื่อนบ้านที่มีกลุ่มนายวีระ หมื่นจะดาร่วมด้วย ผบช.ภาค5กล่าวในที่สุด

ศุลกากรแม่สายจับสองผู้ต้องหาชายหญิงขนอาวุธปืนสงคราม26กระบอกกระสุนร่วม5หมื่นนัดส่งสัยส่งกองกำลังชนกลุ่มน้อยประเทศเพื่อนบ้าน

ที่ด่านศุลกากรแม่สาย จ.เชียงราย นายณรงค์ โรจนโสทร รอง ผวจ.เชียงราย พล.ต.ต.ชินวิช วิชัยธนพัฒน์ ผบก.ภ.จว.เชียงราย พ.อ.พักตร์พงษ์ เงสันเทียะ หัวหน้า กอ.รมน.เชียงราย พ.อ.ภูเบศ มาแก้ว รอง ผบ.ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง พ.ต.อ.พิพัฒน์ นาระเดช ผกก.สภ.แม่สาย พ.ต.อ.ณัฐวุฒิแสงเดือน ผกก.ตม. เชียงราย นายออน อุ่นทวีทรัพย์ นายด่านศุลกากรแม่สาย ได้ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม นายกวาว พอย ชาวเมียนมา และนางจ๋าม นามวงศ์ เป็นผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน (บัตรหัว 0 ) ชาวป่ายางใหม่ ต.เวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย พร้อมด้วยของกลาง ปืนพกสั้นจำนวน 13 กระบอก ปืนยาวจำนวน 13 กระบอกพร้อมกระสุนปืนจำนวน 46,375 นัด

โดยเมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 27 พ.ค.64 ขณะที่เจ้าหน้าที่ศุลกากร แม่สาย นำโดย นายธนู อาทรหัวหน้าฝ่ายสืบสวนและปราบปรามพร้อมเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรแม่สายเจ้าหน้าที่ศุลกากรส่วนควบคุมทางศุลกากรสำนักงานศุลกากรภาคที่ 3 นำโดยนายอัศวิน อินทวิวัฒน์ นักวิชาการศุลกากรปฏิบัติการกับพวก ได้ทำการออกลาดตระเวนในพื้นที่รับผิดชอบพบนายกวาว พอย และนางจ๋าม นามวงศ์ กำลังขนถ่ายสินค้า รถตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาวหมายเลขทะเบียน ผท 341 เชียงราย และรถกระบะสีบรอนซ์เงินหมายเลขทะเบียน ผก 6903 เชียงราย อยู่บริเวณถนนเทศบาล 13 ตำบลเวียงพางคำ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ท่าทางมีพิรุธ จึงเข้าแสดงตัวและทำการตรวจสอบสินค้าในรถตู้คันดังกล่าวพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนจำนวนดังกล่าวมูลค่ารวม 4 ล้านบาท จึงได้ทำการควบคุมตัวทั้งคู่พร้อมของกลางมาสอบสวน ที่ด่านศุลกากรแม่สาย

โดยนางจ๋าม ให้การว่าได้ไปรับของกลางทั้งหมดมาจากบริเวณหลังห้างสรรสินค้าแห่งหนึ่งใน อ.แม่สาย โดยใช้ถกระบะสีบรอนซ์เงินหมายเลขทะเบียน ผก 6903 เชียงราย จากนั้นได้นัดหมาย นายกวาว ให้นำรถตู้ยี่ห้อโตโยต้าสีขาวหมายเลขทะเบียน ผท 341 เชียงราย มารับของที่จุดนัดหมาย เพื่อจะไปพักไว้เพื่อรอส่งต่อไปอีกทอดหนึ่ง ในเบื้องต้นได้แจ้งข้อหาว่า “ ช่วยซ่อนเร้นช่วยจำหน่ายช่วยพาเอาไปเสียซื้อรับจำนำหรือรับไว้โดยประการใดซึ่งของอันตนจึงรู้ว่าเป็นของเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 เป็นความผิดตามมาตรา 242 มาตรา 246 ประกอบมาตรา 252 แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2560 และพระราชบัญญัติอาวุธปืนเครื่องกระสุนปืนวัตถุระเบิดดอกไม้ไฟและสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490″ จากนั้นได้นำของกลางพร้อมผู้ต้องหาส่งสถานีตำรวจภูธรแม่สายดำเนินการสอบสวนและขยายผลต่อไว่าอาวุธทั้งหมดรับมาจากที่ใดและจะจัดส่งไปที่ใดพร้อมทั้งหาผู้ร่วมขบวนการต่อไป

จับบิ๊กล็อตยาบ้า5ล้านเม็ดพร้อมผู้ต้องหา5คนรับจ้าง1.8ล้านบาทขนจากเชียงรายส่งอยุธยา

ที่ห้องประชุมกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ผวจ.ลำปาง พลตรี อโณทัย ชัยมงคล ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 พล.ต.ต.นันทวิทย์ เทียมบุญธง ผบก.ภ.จว.ลำปาง พ.ต.อ.ชูวิทย์ กองแก้ว รอง ผบก.ภ.จว. ลำปาง และผู้เกี่ยวข้องเกี่ยวข้องร่วมกันแถลงข่าวจับกุมขบนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ ผู้ต้องหาประกอบด้วย นาย ภานุวัฒน์ อายุ 24 ปี นายใจ อายุ 28 ปี นาย นู้ อายุ 31 ปี นายเฉลิม อายุ 28 ปี และนายเจริญพร ทั้งหมดเป็นชาว อ.พบพระ จ.ตาก พร้อมด้วยของกลางยาบ้า 5 ล้านเม็ด รถยนต์ปิ๊กอัพ 4 ประตู ยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลข ก 2748 พระนครศรีอยุธยา รถยนต์ปิ๊กอัพยี่ห้อมิตซูบิซิ สีดำ หมาย เลขทะเบียน ยจ 4962 เชียงใหม่ รถยนต์ปิ๊กอัพยี่ห้อโตโยต้า สีเทา หมายเลขทะเบียน บน 4431 จ น่าน

โดยการจับกุมครั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่าจะมีการขนยาเสพติดยาบ้าล็อตใหญ่จากพื้นที่ จ.เชียงราย โดยปลายทางอยู่ที่ จ.พระนครศรีอยุทธยา จึงสนธิกำลังตั้งด่านบนถนนบ้านแม่ตั๋ง – บ้านพระบาทวังตวง หมู่ 5 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก จ.ลำปาง พบรถยนต์รถยนต์ปิ๊กอัพ ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีดำ หมายเลขทะเบียน ยจ 4926 เชียงใหม่ ด้านท้ายกระบะหลังบรรทุกสิ่งของขับมาด้วยความเร็วสูงจึงไล่ติดตามเพื่อตรวจค้นต่อมาพบต่อมาพบรถไปจอดทิ้งไว้ในบริเวณป่าละเมาะ ภายในหมู่บ้านแม่ตั๋ง หมู่ 3 ต.พระบาทวังตวง อ.แม่พริก ส่วนคนขับคือนายใจ และ นายภานุวัฒน์ ที่นั่งมาด้วยวิ่งหนีเข้าป่าละเมาะไป เจ้าหน้าที่จึงไล่ตามและจับกุมตัวได้ในที่สุด ตรวจสอบกะบะหลังรถพบยาบ้าจำนวน 5 ล้านเม็ด ซุกซ่อนไว้ หลังถูกจับทั้งคู่ให้การว่าทำเป็นขบนการมีรถนำทางและรถปิดท้ายขบวนในการขนยาบ้าครั้งนี้ด้วยเจ้าหน้าที่จึงไล่ติดตามและสามารถจับได้ได้ทั้งหมดยกแก๊ง สำหรับแก๊งนี้เป็นแก๊งรับจ้างขนยาเสพติดให้กับนายทุนใหญ่โดยขนมาจาก จ.เชียงราย จะนำไปส่งที่ จ.พระครศรีอยุทธยา ในราคา 1.8 ล้านบาท ทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลถึงเพื่อนร่วมแก๊งและนายทุนมาดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป

ผบช.ภาค5สั่งตั้งข้อหาหนักแก๊งท่าสองยางขนต่างด้าว81คนหัวโจกเป็นสมุนนายทุนกรุงเทพฯเคยถูกจับอยู่ระหว่างประกันตัวไม่สำนึกก่อเหตุซ้ำอีกเตรียมสาวถึงนายทุนใหญ่โอ่ตำรวจมีข้อมูลหมดแล้วจับเร็วๆนี้

จากกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองอำเภออมก๋อย จ.เชียงใหม่ทำสกัดจับกุมรถยนต์ 6 คันพร้อมแรงงานต่างด้าวจำนวน 81 คน แยกเป็นชาย 46 คนหญิง 35 คน ได้ที่บริเวณเส้นทางหลวงหมายเลข 1099 อ.อมก๋อย – ฮฮด บ.หนองกระทิง ม.4 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้วนั้น

ที่ห้องประชุม สภ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 พล.ต.ต.วีรชน บุญทวี ผบก.สส.ภ.5 พล.ต.ต.พิเชษฐ จีระนันตสิน ผบก.ภ.จว.เชียงใหม่ ร่วมประชุมวางแผน กวาดล้างเครือข่ายลอบขนแรงงานต่างด้าว เพื่อกวาดล้างผู้บงการทั้งขบวนการ โดยมีเจ้าหน้าที่ทหารพราน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เข้าร่วมนอกจากนั้นยังได้มีการสอบสวนปากคำนายนพดล อายุ 32 ปี นายซอหมี ขุนชนะกล อายุ 35 ปี นายทรงธรรม อายุ 44 ปี นายดิ๊พาล่า อายุ 43 ปี นายชยุต อายุ 40 ปี นายสิทธิโชคอายุ 33 ปี ทั้งหมดเป็นชาว อ.ท่าสองยาง จ.ตาก พร้อมดำเนินคดีในข้อหา”ร่วมกันช่วยเหลือ นำพาคนต่างด้าวที่รู้อยู่แล้วว่าลักลอบเข้ามาในอาณาจักร โดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวพ้นจากการจับกุม มั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 แห่งพรกการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พุทธศักราช 2548 ”

ทั้งนี้จากการตรวจสอบพบว่านายนพดล มีอาชีพรับจ้างทั่วไป และถูกนายทุน ที่กรุงเทพ ดำเนินการว่าจ้างให้ขับรถเป็นขบวนไปรับแรงงานต่างด้าว ซึ่งก่อนหน้านี้เคยถูกจับกุม ที่ สภ ลี้ อ.ลี้ จ.ลำพูน เมื่อเดือนเมษายน ที่ผ่านมาข้อหาคนต่างด้าว 32 คน อยู่ในระหว่างประกันตัวแต่กลับมาก่อเหตุอีก สำหรับครั้งนี้นายนายนพดล ได้ชักชวนเพื่อนอีก 5 คนมาขนแรงงานต่างด้าว จากชายแดนจังหวัดตาก ก่อนลำเลียงขับผ่านป่าดอย ที่เป็นถนนสายรอง มาจนถึงอ.อมก๋อย แล้วจะออกไปอ.ดอยเต่า จ.เชียงใหม่ เข้าอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน และมีรถมารับอีกทอด หนึ่งเพื่อขับขี่จากอ.ลี้ ไปยังกรุงเทพ และกระจายแรงงานต่างด้าวไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งแต่ละคนจะได้รับค่าจ้างการทำงานครั้งละ 20,000 บาท

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 เปิดเผยว่าคดีนี้ได้มีการประชุมทุกหน่วยงานโดยส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการเตรียมการป้องกัน การลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาตามช่องทางต่างๆในพื้นที่ภาคเหนือตอนบน ได้มีการกำชับให้ทุกหน่วยงาน ประสานงานเข้มงวด จัดตั้งด่านตามถนนสายหลักสายรอง เพื่อสกัดกั้นทุกเส้นทาง อีกทางก็เตรียมขยายผลเพราะขบวนการนี้จากการสืบสวนสอบสวนก็พบว่าทำมาแล้วหลายครั้ง รู้ช่องทางการขับรถ เส้นทาง เป็นอย่างดี ซึ่งตอนนี้เราก็มีข้อมูลเครือข่าย ผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด และเตรียมขยายผลออกหมายจับกลุ่มที่เกี่ยวข้องต่อไป

แฉรายได้ดีเก็บหัวละสองหมื่นขนต่างด้าวเข้าไทยจับอีกขบวนการค้ามนุษย์ขน81ต่างด้าวเมียนมาปลายทางกรุงเทพฯจ่อชายแดนอีกเพียบทหารตำรวจงานหนักแน่

พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพราน ร่วมกับฝ่ายปกครอง ตำรวจสภ.อมก๋อย ทำการลาดตระเวนระวังเฝ้าตรวจตั้งจุดตรวจจุดสกัดกั้นชั่วคราว เส้นทางหลวงหมายเลข 1099 อ.อมก๋อย – ฮฮด บ้านหนองกระทิง ม.4 ต.อมก๋อย อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เพื่อสกัดจับกุมกลุ่มขบวนการลักลอบลำเลียงบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย และสกัดกั้นยาเสพติดที่ลักลอบลำเลียงจากแนวชายแดนเข้ามาในพื้นที่ชั้นใน

ขณะกำลังตั้งด่านพบรถกระบะจำนวน 6 คันขับมาตามถนน ด้านหลังรถมีการคลุมผ้าใบไว้ และเมื่อเห็นด่านตรวจรถเหล่านั้นพยายามจะกลับรถหลบหนี แต่ทหารและตำรวจได้สกัดกั้นไว้หมดทุกช่องทางจึงจับได้ทั้งหมด จากการตรวจค้นก็พบชายไทยจำนวน 6 คนเป็นชายเป็นคนขับรถทั้ง 6 คนและหลังรถกะบะก็พบแรงงานต่างด้าว ไม่มีใบผ่านแดนเข้ามาประเทศไทยจำนวน 81 คนแยกเป็นชาย 46 คนหญิง 35 คน และพบวิทยุสื่อสารเปิดข่ายดักฟังส่วนราชการ 2 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ 8 เครื่อง จึงจับกุมทั้งหมดไว้

จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่าแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวแก๊งนี้จะรับแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมา โดยเรียกเก็บเงินจากต่างด้าวคนละ 20,000 บาท เพื่อส่งไปกรุงเทพฯ โดยแก๊งคนไทยจะไปรับต่างด้าวที่ลักลอยเข้ามาที่ชายแดน จ.ตาก และขับเข้ามาตามเส้นทางผ่านอ.อมก๋อย และออกทางอ.ลี้ จ.ลำพูน เพื่อหลบเลี่ยงด่านและการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ตามรายงานของฝ่ายความมั่นคงยังมีแรงงานชาวเมียนมาเดินทางมาที่ชายแดนด้าน จ.ตาก แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ และเชียงราย อีกจำนวนมากเพื่อรอโอกาศที่จะหลบหนีเข้ามาหางานทำให้ประเทศไทยโดยมีผู้ร่วมขบวนการนำเข้ามาทั้งคนไทยและนายหน้าชาวเมียนมาอยู่เบื้องหลัง จึงนำแรงงานต่างด้าวทั้งหมดตรวจหาเชื้อโควิด 19 และทำการกักตัวเพื่อผลักดันออกนอกประเทศ ส่วนผู้ต้องหาคนไทยจำนวน 6 คนนำส่งพนักงานสอบสวนสภ.อมก๋อย เพื่อทำากรสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมขบวนการนี้ต่อไป

จำใจฆ่าพ่อสุดทนลูกไม่ทำงานดีแต่ไถเงินไม่ให้ก็โดนซ้อมคว้าลูกซองซัดเปรี้ยงเข้าหน้าอกยืนถือปืนน้ำตาคลอรอมอบตัว

พ.ต.อ.ธงชัย กรรณิกา ผกก.สภ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ ได้รับแจ้งว่ามีเหตุยิงกัน มีผู้เสียชีวิตเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 40/5 หมู่ 4 ต.เทพเสด็จ อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมกับชุดสืบสวน เจ้าหน้าที่กู้ภัย

ที่เกิดเหตุพบนายอุดม อายุ 56 ปีเจ้าของบ้านยืนถืออาวุธปืนลูกซองยาว รอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ห่างออกไปพบร่างของนายวีระยุทธ อายุ 36 ปี ซึ่งเป็นลูกชายอาการสาหัส เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่ง รพ.ดอยสะเก็ด แต่ทนพิษบาดแผลไม่ไหวเสียชีวิตในเวลาต่อมา นายอุดม ให้การทั้งน้ำตาว่าเหตุที่ต้องจำใจยิงลูกชายจนตายสืบเนื่องมาจากอยู่กับลูกชายสองคน ลูกไม่ทำงานอะไรวันๆได้ขอแต่เงินจากตน และเมื่อไม่นานมานี้ก็มาขอเงินตนไม่มีให้ก็ถูกซ้อมจนได้รับบาดเจ็บ ก่อนเกิดเหตุขณะะนั่งกินข้าวกันอยู่ นายวีรยุทธ ก็เอ่ยขอเงิน 1 หมื่นโดยอ้างว่าจะนำไปเปลี่ยนยางรถใหม่ ตนก็ได้สั่งสอนว่ายุคโควิดระบาด เงินทองหายาก ให้หางานทำเก็บเงินเอง สร้างความไม่พอใจให้ลูกชายปรี่เข้ามาจะทำร้ายตนเหมือนครั้งก่อนอีก ตนจึงคว้าปืนลูกซองยิงใส่จนเสียชีวิต

ฉก.ม.5 .ผาเมืองปะทะคาราวานขนยาบ้าสนั่นป่าบริเวณช่องร้อยล้านตะเข็บชายแดนอ.เชียงดาวยึดยาบ้า6.5แสนเม็ด

พล.ต. นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผบ.กองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า กองร้อยทหารม้าที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 กองกำลังผาเมือง จัดได้จัดกำลัง 2 ชุด โดยมี ร.อ.พัชรพันธุ์ พงศ์พันธ์งาม ผู้บังคับกองร้อยทหารม้าที่ 2 กองบังคับการควบคุมที่ 1 และ ร.ต.ดำริ มีเงิน เป็น หน.ชุดปฏิบัติการ ทำการลาดตระเวนตรวจในพื้นที่เพ็งเล็งเฝ้าระวังลักลอบลำเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านข้ามชายแดนเข้ามายังประเทศไทย บริเวณ ช่องทางร้อยล้าน ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งห่างจากช่องทางหลักช่องทางหนองเขียว ไปทางทิศตะวันตก ประมาณ 2 กิโลเมตร

จากการตรวจการณ์ลาดตระเวนตรวจพบกลุ่มคนต้องสงสัย ประมาณ 7 – 8 คนแต่งกายคล้ายชาวสวนสะพายกระสอบดัดแปลงเป็นเป้หลัง ในมือถืออาวาวุธครบทุกคนทางทหารจึงทำการยิงแจ้งเตือนเพื่อให้หยุด แต่กลุ่มบุคคลดังกล่าวขัดขืน จึงเกิดการยิงปะทะกันสนั่นป่าประมาณ 15 นาที หลังสิ้นเสียงปืนจากทั้งสองฝ่ายกองกำลังดังกล่าวได้ล่าถอยข้ามเขตชายแดนหลนีไปได้ทั้งหมด ส่วนกำลังทหารฝ่ายเราปลอดภัย จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุกระสอบบรรจุ ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า จำนวน 5 เป้ เป้ละ 130,000 เม็ดรวมของกลางยาบ้าที่ถูกทิ้งไว้ จำนวน 650,000 เม็ดด้วยกัน

จับแก๊งค้ามนุษย์ขน42เมียนมาลักลอบเข้าไทยชายแดนแม่สายทำเป็นขบวนการมีนายทุนทั้งไทยและเมียนมาสุมหัวกันพาเข้ามาส่งต่อกรุงเทพฯผวจ.เชียงรายชี้กระทบความมั่นคงสั่งฟันไม่เลี้ยง

นายประจญ ปรัชญ์สกุล ผวจ.เชียงราย พ.ต.อ.มานพ เสนากุล รอง ผบก.ภ.จว.เชียงราย นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ ฝ่ายปกครอง และทหาร จับกุมผู้นำพาและแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย พื้นที่ สภ.แม่จัน จ.เชียงราย โดยการจับกุมเจ้าหน้าที่ได้สืบทราบมีขบวนการลักลอบนำแรงงานต่างด้าวจากชายแดนไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อจะนำไปส่งที่ภาคกลาง จึงได้ติดตามพฤติกรรมกลุ่ทขบวนการมาโดยตลอด จนกระทั่งต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถยนต์ตู้ 2 คันเข้ามาจอดที่ บ้านเลขที่ 143 ที่หมู่ 1 ต.สันทราย อ.แม่จัน จ.เชียงราย ซึ่งเป็นบ้านของ นายปรีชา อายุ 56 ปี

จากนั้นเวลาประมาณ 13.30 น. ได้มีรถกระบะยี่ห้อโตโยต้าสีขาว ผต 7194 เชียงราย ของนายปรีชา ขับนำรถตู้ทั้ง 2 คันออกจากบ้านหลังดังกล่าว ได้ประมาณ 3 กิโลเมตร ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าสกัดรถเอาไว้ จากการตรวจสอบภายในรถยนต์ตู้พบมีแรงงานชาวเมียนมาอยู่ภายในอยู่คันละ 21 คน รวมทั้งหมด 42 คน เป็นชาย 16 คน หญิง 26 คน จึงได้จับกุมตัวทั้งหมดพร้อมคนขับรถคันหน้า คือ นายหล้า อายุ 47 ปี ชาว ส่วนคนขับรถตู้คันที่ 2 คือ นายวิชัย อายุ 49 ปี ทั้งคู่เป็นชาว ต.โป่งผา อ.แม่สาย หลังจากทกการกสัดจับกุมแล้ว ได้นำทั้งหมดมาที่ สภ.แม่จัน เพื่อสอบปากคำเบื้องต้นคนขับสารภาพว่าเป็นเพียงคนรับจ้างโดยได้รับค่าจ้างให้ขับไปส่งระยะสั้น คนละ 5,000 บาท เพื่อนำไปส่งพื้นที่ จ.พะเยา โดยเลี่ยงด่านตรวจ แม่จัน

นายประจญ ปรัชญ์สกุล กล่าวว่า การจับกุมในครั้งนี้จะมีการขยายผลและดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องในกฎหมายทุกฉบับ ทั้งเรื่องการหลบหนีเข้าเมือง การฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ การนำพาคนหลบหนีเข้าเมือง เรื่องการค้ามนุษย์ซึ่งทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) จะมาดูในเรื่องนี้ด้วย สำหรับการสกัดกั้นได้ครั้งนี้เกิดจากการประสานงานร่วมระหว่างเจ้าหน้าที่ฝ่ายพลเรือน ตำรวจ ทหารภายใต้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน (กอ.รมน.) จ.เชียงราย

ด้าน พ.ต.อ.มานพ เสนากูล กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้นทราบว่าคนกลุ่มนี้ได้ลักลอบเข้าสู่ประเทศไทยทางช่องทางที่ผิดกฎหมายและไปพักที่บ้านน้ำจำ ต.โป่งผา อ.แม่สาย จากนั้นได้ย้ายไปพักต่อที่บ้าน ต.สันทราย ก่อนจะไปพักที่ จ.พะเยา แล้วจะมีการขนกันเป็นทอดๆ ไปสู่ภาคกลางต่อไป สำหรับการดำเนินการนั้นจะมีการนำทั้งหมดไปควบคุมที่ร้อย ตชด.327อ.แม่จัน เพื่อทำการตรวจโรคเบื้องต้นว่าติดเชื้อไวรัส โควิด – 19 หรือไม่ และจะกักตัว 14 วันก่อนจะทำการสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไป

จากการสอบปากคำหนึ่งในชาวต่างด้าวที่หลบหนี้เข้ามาให้การว่าได้เดินข้ามลำน้ำสายที่มีความลึกประมาณอก ก่อนจะเดินเท้าอีกประมาณ 30 นาที จึงมีรถยนต์ตู้สภาพเก่า ไปรับเพื่อไปพักที่บ้านน้ำจำ ก่อนจะมีรถมารับแล้วมาพักต่อที่ อ.แม่จัน และถูกจับกุมในที่สุด โดยมีชายเมียนมาคนหนึ่งในกลุ่มเป็นคนนำพาทั้งหมดมาโดยชายคนดังกล่าวเคยพาชาวเมียนลุ่มหนึ่งไปส่งที่กรุงเทพฯ มาแล้ว 1 ครั้ง ได้เงินค่าจ้าง 10,000 บาท ครั้งนี้ได้กลับมารับทั้งหมดไปอีกครั้งแต่ถูกจับกุมเสียก่อน

ตม.บุกจับบ่อนพนันออนไลน์ใช้ไทยเป็นฐานเช่าบ้านจ้างคนไทยทำงานชวนพนันเข้ามาเล่นหัวโจกเป็นชาวต่างชาติตำรวจเร่งไล่ล่าลากคอมาดำเนินคดีแล้ว

พล.ต.ต.เดชา กัลยาวุฒิพงศ์ ผบก.ตม. 5 พ.ต.อ.เอกกร บุษบาบดินทร์ รองผบก.ตม. 5 พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผบก.สส.บก.ตม. 5 สนธิกำบุกทลายแห่งพนันออนไลน์ จับกุมตัวนายวัฒนพล อายุ 25 ปี น.ส.ชนัฏฏา อายุ 24 ปี นายอนุรักษ์ อายุ 27 ปี และนายกัณณพันต์ อายุ 28 ปี พร้อมของกลางคอมพิวเตอร์ 4 เครื่อง นำตัวดำเนินดคีข้อหา จัดให้มีการเล่น หรือทำอุบายล่อช่วยประกาศโฆษณาหรือชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนันในการเล่นซึ่งมิได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่

 

เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองรับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 370/25 หมู่ 4 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ และที่บ้านเลขที่ 411/148 หมู่ 5 ต.หนองหาร อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ มีแก๊งชาวต่างชาติมาเช่า และจ้างพนักงานซึ่งเป็นคนไทย มาคอยควบคุมเว็บไซต์รับแทงพนันผิดกฏหมาย จึงตรวจสอบที่บ้านทั้งพบผู้ต้องหา ทั้งหมดกำลังนั่งหน้าจอคอมคอมพิวเอตร์ ส่งใบโฆษณาเชิญชวนให้นักพนันเข้ามาเล่นการพนันกับเว็บไซต์ www.santa168.com ซึ่งทั้งบาคาร่า ไฮโล ป๊อกเด้ง ฟุตบอล และอื่นๆอีกกว่า 50 ชนิดการพนัน โดยมีลูกค้ากว่า 1,000 คนมีเงินหมุนเวียนวันละหลายแสนบาท ทั้งหมดรับว่าเป็นเพียงลูกจ้างมาทำงานหาเงินเท่านั้นซึ่งจะได้ติดตามจับกุมขบวนการแก๊งนี้ต่อไป

ทลายแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ภาคเหนือขนข้ามชายแดนส่งลูกค้าทั่วประเทศ

พ.ต.อ.ไพโรจน์ ทองขาว ผกก.สส.1 บก.สส.ภ.5 พ.อ.สมรรถชัย แปงสาย ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 36 สนธิกำลัง จับกุมตัวน.ส.ประกายดาว อายุ 29 ปี ชาว ต.ม่อนปิ่น อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ นายวิชัย อายุ 32 ปี ชาว ต.โป่งน้ำร้อน อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 126,400 เม็ด

สืบเนื่องมาจากก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ทหารพราน จับกุมตัวนายธีรยุทธ์ อายุ 35 ปี และนายสุรัตน์ อายุ 48 ปี พร้อมยาบ้า 40,000 เม็ด ในพื้นที่ อ.ฮอด จ.เชียงใหม่ หลังการจับกุมทั้งสองคนให้การรับสารภาพว่นายทุนคือ น.ส.ประกายดาว ว่าจ้างให้นำยาบ้าดังกล่าวมาส่งให้กับลูกค้า จึงสวมรอยติดต่อล่อซื้อนัดส่งของกันที่บริเวณบ้านหมู่บ้านของ น.ส.ประกายดาว จับกุมพร้อมของกลางยาบ้าล่อซื้อ 400 เม็ด

จากการสอบสวน น.ส.ประกายดาว ให้การว่าพึ่งใช้ให้นายวิชัย นำยาบ้าจำนวน 126,000 เม็ดไปส่งให้ลูกค้าที่ตัวเมืองจ.ลำปาง ทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัวนายวิชัย พร้อมของกลางได้ที่บริเวณปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ อ.เกาะคา แก๊งค้ายานี้ เป็นเครือข่าวชาวเขา ที่รับยาตรงจากโรงงานผลิตยาเสพติดในประเทศเมียนมา นำมากระจายขายทั่วประเทศไทยมียาบ้ายาเสพติดจำนวนมากกำลังรอลำเลียงเข้ามาตามแนวชายแดน ซึ่งจะได้ขยายผลติดตามจับกุมเพื่อร่วมแก๊งต่อไป