ตร.ช้างเผือกล่าหัวหน้าแก๊ง”มะขุนหวาน”ขบวนการค้ายาบ้ารายใหญ่เชียงใหม่หลังจับกุมลูกน้องได้3รายของกลางยาบ้า5หมื่นกว่าเม็ด

พ.ต.อ.กิตติพงษ์ เพ็ชรมุณี ผกก.สภ.ช้างเผือก พ.ต.ท.วัชระ เทือกตา รอง ผกก.สส.สภ.ช้างเผือก พร้อมชุดปราบปรามยาเสพติดสภ.ช้างเผือก ไจับกุมตัวนายจิรพงษ์ อายุ 25 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 30,000 เม็ด นำตัวดำเนินดคีข้อหา”มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

ก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับนายสิทธิพงค์ 29 ปี ชาวอ.สันทราย จ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยของกลางยาบ้า จำนวน 20,100 เม็ดโดยจับได้ขณะนำยาบ้าไปส่งให้เอเย่นต์ในตัวเมืองเชียงใหม่ หลังจับกุมนายสิทธิพงค์ รับสารภาพว่าพึ่งนำยาไปส่งให้กับนายยุทธพงษ์ อายุ 32 ปี ชาว อ.สันทราย จ.เชียงใหม่ ทางเจ้าหน้าที่จึงติดตามไปจับกุมตัวนายยุทธพงษ์ ได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 1,640 เม็ด นอกจากนี้นายยุทธพงษ์ ยังให้การว่าได้นำยาล็อตใหญ่ไปส่งให้กับนายจิรพงษ์ อีกจำนวน 3 หมื่นเม็ด ทางเจ้าหน้าที่จึงขยายผลไปจับกุมนายจิรพงษ์ ได้พร้อมของกลางดังกล่าว จากการสอบสวนทั้งหมดเป็นแก๊งมะขุนหวาน ที่มีหัวหน้าแก๊งอยู่อ.สันป่าตอง คอยบงการสั่งจัดยาบ้าไปตามพื้นที่ต่างๆเพื่อกระจายยาบ้าขายในหลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ซึ่งจะได้ติดตามจับกุมตัวหัวหน้าแก๊งนี้มาดำเนินคกีตามกฏหมายต่อไป

ตร.ภาค5ทลายแก๊งค้ามนุษย์ลักลอบขนคนต่างด้าวเข้ากรุงทำเป็นขบวนการส่งต่อกันเป็นทอดๆโดยมีนายทุนใหญ่อยู่เบื้องหลัง

พล.ต.ท.ประจวบ วงศ์สุข ผบช.ภ.5 สั่งการให้พ.ต.อ.วรพงศ์ คำลือ รอง ผบก.สส.ภ.5 และหัวหน้าชุดปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 จับนายธนาวุฒิ อายุ 47 ปี น.ส.ปินดารา อายุ 37 ปี ชาวกุงเพทฯ นายเศรษฐวิทย์ อายุ 40ชาว จ.พะเยา นายศักศิริ อายุ 33 ชาวจ.กาญจนบุรี นายทันยนิตย์อายุ 46 ชาวจ.ชลบุรี พร้อมของกลางรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้าแคมรี่ สีดำ หมายเลขทะเบียน 9กย-9729 กรุงเทพ รถยนต์เก๋งโตโยต้าแคมรี่ สีบรอนทอง หมายเลขทะเบียน ชท-6113 กรุงเทพ รถยนต์เก๋งยี่ห้องนิสสันมาร์ชสีดำ หมายเลขทะเบียน 1 กฒ -4500 กรุงเทพ โทรศัพท์มือถือ 7 เครื่อง พร้อมบุคคลต่างด้าวจำนวน 14 คน นำตัวดำเนินคดีข้อหา”ร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดๆ ให้คนต่างด้าวที่ว่ารู้เข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย พ้นจากการจับกุม”

สืบเนื่องปัญหาการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด 19 และปัญหาการเมืองภายในประเทศเมียนมา ทางผบช.ภาค 5 ได้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 เร่งรัดสืบสวนสอบสวนจับกุมแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นแหล่งระบาดของโรคไวรัสโควิด 19 ทางชุดปราบปรามแรงงานต่างด้าวผิดกฏหมาย จึงทำการสืบสวนก็พบว่ามี”แก๊งแท็กซี่”ลักลอบขนแรงงานต่างด้าว จากชายแดนนำไปส่งกรุงเทพ จึงนำกำลังทั้งหมดไปทำการตั้งด่านสกัดจับที่บริเวณด่านตรวจสกัดกั้นยาเสพติด สภ.แม่ทา ถนนเชียงใหม่-ลำปาง ต.แม่ทา จ.ลำพูน ต่อมาก็พบกลุ่มรถของกลางทั้งหมด 3 ขับขับตามๆกันมาซึ่งตรงกับแนวทางการสืบสวน จึงเรียกรถทั้งหมดให้หยุดและทำการตรวจค้นก็พบกลุ่มผู้ต้องหา และบุคคลต่างด้าวที่ไม่มีใบอนุญาต เข้ามาในราชอาณาจักร จำนวน 14 คนจึงจับกุมตัวไว้ทั้งหมด

หลังการจับกุมได้มีการสอบสวนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาทั้งหมดเดิมทำอาชีพเป็นคนขับแท็กซี่ลีมูซีน อยู่สนามบินสุวรรณภูมิ แต่จากปัญหาสภาพเศรษฐกิจ ทำให้ต้องหันมาหาอาชีพเสริม จึงถูกชักชวนจากนายนัน ชาวพม่า ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊งลักลอบนำพาต่างด้าวรายใหญ่ของภาคเหนือ ทำการจ้างให้ขับมารับกลุ่มแรงงานพม่า จากจุดต่างๆในตัวเมืองเชียงใหม่ แล้วนำไปส่งยังกรุงเทพ โดยได้รับค่าจ้างหัวละ 2,000-2500 บาท โดยแก๊งนี้ทำมาแล้วหลายครั้ง และยังมีผู้ร่วมขบวนการที่มีหน้าที่เป็นพลขับอีกหลายคนด้วยกัน

ทางชุดสืบวนภาค5 ได้ขยายผลทำการจับกุมตัวนายกสินโรจน์ อายุ 28 และนางประภาพร ชาว จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางรถโดยสารสารสี่ล้อแดงยี่ห้อโตโยต้า หมายเลขทะเบียน 30-6300 เชียงใหม่ โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง และบุคคลต่างด้าวอีกจำนวน 6 คนการจับกุมครั้งนี้หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมผู้ต้องหาชุดแรกแล้วได้สืบสวนก็ทราบว่าตัวนายกสินโรจน์ และภรรยา มีหน้าที่ไปรับแรงงานต่างด้าวจากพื้นที่อ.แม่แตง แล้วนำมาส่งให้กลุ่มแท็กซี่ลีมูซีน จึงนำกำลังไปสกัดจับขณะกำลังขนแรงงานต่างด้าว จากพื้นที่อ.แม่แตง เข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ เพื่อส่งต่อให้กับผู้ต้องหาชุดแรกขนเข้ากรุงเทพฯต่อไปโดยได้ค่าจ้างหัวละ 1,000 บาท โดยแก๊งลักลอบขนแรงงานต่างด้าวแก๊ง นี้มีนายนัน ชาวพม่าเป็นหัวหน้าแก๊งอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านนำแรงงานต่างด้าว หลบหนีเข้ามามาตามช่องทางธรรมชาติ ด้านชายแดนจ.เชียงใหม่ แล้วจะเดินป่าเข้ามาที่อ.แม่แตง แล้วจะมีกลุ่มเพื่อนร่วมแก๊งมารับตัวส่งต่อกันเป็นทอดๆเพื่อเดินทางเข้าไปทำงานโดยผิดกฏหมายที่กรุงเทพฯและจังหวัดใกล้เคียง

สืบสวนภาค5จับหนุ่มพร้อมยาบ้า1แสนเม็ดขนจากชายแดนสารภาพรับจ้างจากขบวนการใหญ่ส่งลูกค้าตามออเดอร์

พ.ต.อ.มานพ คนหลัก ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.วิษณุ บุญมา สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ทำการจับกุมตัวนายสุทิวัส อายุ 26 ปีชาว ต.ปิงโค้ง อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 100,000 เม็ด รถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้าสีดำหมายเลขทะเบียน ยข 8841 เชียงใหม่ นำตัวดำเนินดคีข้อหา”มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภาค 5 ได้รับแจ้งข่าวจากสายลับว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาส่งจำหน่ายในพื้นที่อ.หางดง จ.เชียงใหม่ จึงจัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบก็พบชายขับรถยนต์ของกลาง วนเวียนอยู่ในพื้นที่ตามถนนสายเลี่ยงเมืองสันป่าตอง-หางดง ช่วงพื้นที่ ต.บ้านแม อ.สันป่าตอง จ.เชียงใหม่ ก่อนขับรถเข้าไปจอดหลบใต้สะพานข้ามลำน้ำ ทางเจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าทำการขอตรวจสอบก็พบผู้ต้องหา และของกลางที่ซุกซ่อนภายในกระสอบปุ๋ยในรถดังกล่าว จึงจับกุมตัวไว้พร้อมของกลาง จากการสอบสวนผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่ารับจ้างจากขบวนการค้ายาเสพติดรายใหญ่ขนยาบ้าดังกล่าวกล่าวจากชายแดนที่อ.เชียงดาว มาส่งให้ลูกค้าในพื้นที่จึงควบคุมตัวไว้ดำเนินคดีและติดตามจับกุมผู้บงการขนยาเสพติดล็อตนี้ต่อไป

โรคร้ายระบาดคนตกงานเงินไม่มีซื้ออาหารยาไส้คุณตำรวจช่วยด้วยโจรใจบาปงัดตู้บริจาควัดพระธาตุจอมแว่อ.พานจ.เชียงรายฉกเงินหลายพันบาทหนีลอยนวล

พระครูวิมลพิพัฒนคุณ เจ้าอาวาสวัดพระธาตุจอมแว่ อ.พาน จ.เชียงราย ซึ่งเป็น วัดประจำอำเภอพาน วัด 1 ใน 9 จอม ของจังหวัดเชียงราย เปิดเผยว่าเมื่อคืนวันพุธที่ 21 เมษายน ที่ผ่านมาเมื่อเวลาประมาณตี 2 ตี 3 ได้ยินเสียงหมาในวัดเห่า แต่ก็ไม่ได้ลุกออกมาดู จนกระทั่งรุ่งเช้า พระลูกวัดไปกวาดทำความสะอาดบริเวณหน้าพระยืน เห็นเงินตกลงอยู่ที่พื้น และพบว่ากุญแจตู้บริจาคถูกงัด ถูกตัด จึงได้ไปดูจุดที่มีการงัด และตรวจดูตู้บริจาคภายในวัด พบว่า ตู้บริจาคหน้าพระนอนซึ่งตั้งอยู่ห่างออกไปจากตัววัด 200 เมตร ก็ถูกงัดด้วย โดยคนร้ายได้ใช้อุปกรณ์ตัดกุญแจออก นำเงินบริจาคภายในตู้ออกไปโดยไม่ทราบว่าเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ และตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งความอะไร โดยเงินในตู้บริจาคเป็นเงินบริจาคในช่วงเทศกาลสงกรานต์เดือนเมษายนทั้งหมด ทุกเดือนจะมีคณะกรรมการวัดไปไขกุญแจออกมานับทุกเดือน เดือนเมษายนยังไม่ทันนำเงินออกมาคนร้ายก็งัดตู้บริจาคพังหมด คาดโจรคงมีการมาดูลาดเลาหลายวันแล้ว

ตามปกติจะมีผู้คนมาทำบุญที่วัดพระธาตุจอมแว่กันต่อเนื่องเพราะเป็นวัดประจำอำเภอพานตั้ง อยู่บนยอดดอยซางคำ มองเห็นทัศนียภาพอำเภอพานและพื้นที่โดยรอบ พอเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อโควิด 19 ทำให้ไม่มีผู้คนขึ้นมาทำบุญที่วัด ซึ่งตู้บริจาคดังกล่าว ทางคณะกรรมการของวัดจะนำออกมานับทุกเดือน เป็นเงินเฉลี่ยต่อเดือน เดือนละไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท แต่เดือนเมษายนนี้ยังไม่ได้นำเงินตู้บริจาคออกมานับคาดว่าสูญเงินไปหลายพันบาท และอีกจุดที่บริเวณพระนอนก็ถูกโจรในบาปงัดตู้บริจาคออกไปเช่นกัน จุดนี้ตั้งอยู่ห่างออกจากตัววัดประมาณ 200 เมตร ไม่มีคนนอนเฝ้า ตอนกลางคืนจะปิดล็อคประตูรั้วเอาไว้และมาไขประตูในตอนรุ่งเช้า ทางพระแจ้งว่ามีการงัดตู้บริจาคของวัดครั้งนี้เป็นหนที่สาม โดยครั้งก่อนเมื่อปีที่แล้วปีนี้ก็โดนอีก

รวบหนุ่มใหญ่อ้างตกงานเพราะโควิด-19พกปืนทุบกระจกรถยนต์ชาวบ้านจอดข้างถนนหวังฉกทรัพย์สินชาวบ้านตาไวสะกิดตำรวจรวบตัวดำเนินคดี

พ.ต.อ.รณชัย รอดลอย ผกก.สภ.ภูพิงค์ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ พร้อมชุดสืบสวน ได้ทำการจับกุมตัว นายชัช อายุ 46 ปี ชาว อ.สันกำแพง จ.เชียงใหม่ พร้อมของกลางอาวุธปืน 9 มม. 1 กระบอกกระสุนปืน 24 นัด รถจยย.ยามาฮ่าฟีโน่ สีชมพู 1 คันนำตัวดำเนินคดีข้อหา”ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายต่อสิ่งกีดกั้น และโดยมีอาวุธปืน และโดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกในการก่อเหตุ พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร”

การจับกุมครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่ามีคนร้ายเป็นชายกำลังก่อเหตุทุบกระจกรถยนต์ซึ่งจอดบริเวณถนนเชียงราย ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ จึงนำกำลังไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ ก็พบ รถยนต์ ยี่ห้อมิตซูบิซิ สีขาว 4 ประตู หมายเลขทะเบียน ขฉ 7246 เชียงใหม่ จอดอยู่โดยมีร่องรอยถูกทุบกระจกด้านฝั่งผู้โดยสารและพบผู้ต้องหา นั่งซ่อนตัวอยู่ในภายในรถ จากการสอบถามว่าเป็นเจ้าของรถคันดังกล่าวหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาได้ให้การวกไปวนมาเป็นที่ผิดสังเกต จึงได้ทำการขอตรวจค้นตัวพบอาวุธปืนพร้อมซองกระสุนปืนซุกซ่อนอยู่บริเวณเอว จากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การยอมรับว่า ตนงาน เพราะพิษโควิด จึงได้เข้ามาทุบทำลายกระจกรถยนต์คันดังกล่าวเพื่อหวังหาของมีค่านำไปขายเพื่อใช้จ่าย ไม่คาดจะถูกจับกุม หลังการสอบสวนได้ควบคุมตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวนสภ.ภูพิงค์ ดำเนินดคีตามกฏหมายต่อไป

สืบภาค5ล่า”ไอ้รัก”หัวหน้าแก๊งค้ายาบ้ารายใหญ่ลำปางหนีคดียาบ้าล้านเม็ดแต่ยังสั่งการให้สมุนส่งยาได้

พ.ต.อ.มานพ คนหลัก ผกก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พ.ต.ท.วิษณุ บุญมา สว.กก.สส.2 บก.สส.ภ.5 พร้อมชุดสืบสวนภาค 5 ได้ทำการจับกุมตัวนายธวัช อายุ 42 ปี พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 22,000 เม็ด และนายธนพนธ์ อายุ 33 ปี ทั้งสองคนเป็นชาว จ.ลำปาง พร้อมด้วยของกลางยาบ้าจำนวน 200 เม็ด นำตัวทั้งสองดำเนินดคีข้อหา”มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนหรือยาบ้า)ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย”

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากการจับกุมเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ในพื้นที่ตัวเมืองลำปางได้หลายคดี โดยมีหัวหน้าแก๊งคือ”ไอ้รัก” ที่กำลังหนีคดี ที่ถูกตำรวจจับกุมยาได้มากกว่า 1 ล้านเม็ด แม้ตัวไอ้รัก จะหลบหนีไปแต่ก็ยังมีการสั่งการให้เครือข่าย คอยไปรับยา และกระจายไปตามพื้นที่ต่างๆในจังหวัดลำปาง โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนภาค 5 ก็เกาะติดตามข่าวแก๊งค้ายานรกแก๊งนี้จนทราบว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาจะมีการลำเลียงยามาวส่งให้ลูกค้า ทางเจ้าหน้าที่จึงดักซุ่มเฝ้าดูก็พบตัวนายธวัช ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อ YAMAHA รุ่น Fino สีดำ-น้ำตาล มาจอดที่บริเวณพงหญ้าถนนสายเลี่ยงเมืองลำปาง แล้วนำสิ่งของไปซ่อนไว้ใต้ป้ายบอกทางหมู่บ้านทางเจ้าหน้าที่ที่สุ่มอยู่จึงแสดงตัวเข้าทำการจับกุมก็พบยาบ้าจำนวน 2.2 หมื่นเม็ด ส่วนอีกรายเจ้าหน้าที่ก็พบตัวนายธนพนธ์ ผู้ต้องหาขับขี่รถ HONDA รุ่น SCOOPY I สีดำ มาบริเวณริมถนนบ้าน ม.3 ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง แล้วนำของไปซ่อนไว้ในป้ายบอกทางหมู่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมได้พร้อมของกลางยาบ้าจำนวน 200 เม็ด จากการสอบสวนผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพว่ารับคำสั่งมาจาก”ไอ้รัก” พ่อค้ายารายใหญ่ให้ดำเนินการกระจายยาตามคำสั่ง โดยทำมาแล้ว 4 ครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะได้ขยายผลการจับกุมกวดาล้างเครือข่ายที่เกี่ยวข้องต่อไป

ต่างด้าวจากเมียนมายังทะลักหนีข้ามชายแดนแม่สายอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่กองร้อยสกัดกั้นผู้หลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย กองบังคับการควบคุมที่ 2 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง ภายใต้การอำนวยการของ พันเอกสัมฤทธิ์ ฉัตรวัฒนาสกุล ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 ได้ทำการลาดตระเวนเฝ้าตรวจ ในพื้นที่ บริเวณท่าข้ามป่าสัก ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย พบบุคลลต้องสงสัย จำนวน 9 ราย เป็น ชาย 4 คน หญิง 5 คน ทั้งหมดเป็นชาวเมียนมาโดยขับขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านบริเวณจุดเฝ้าตรวจจึงได้เข้าแสดงตัว เพื่อขอตรวจค้น ผลการตรวจค้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การรับสารภาพว่า เดินทางข้ามมาจากประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเข้ามาหางานทำ อีกราย ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่า มีบุคคลต่างด้าวเข้ามาอาศัยอยู่ในพื้นที่ บ้านป่ายางชุม หมู่ 6 ต.แม่สายอ.แม่สาย จ.เชียงราย ได้จัดชุดปฏิบัติการร่วมกับ เจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดน อำเภอแม่สาย เข้าตรวจสอบบุคคลต่างด้าว ทราบชื่อภายหลัง นาย จ่อ ซัน วิน อายุ 51 ปี สัญชาติเมียนมา ได้เข้ามารับการตรวจร่างกายที่ รพ.แม่สายฯ ซึ่งป่วยเป็นโรคริดสีดวงจึงควบคุมตัว นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.แม่สาย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ทหารผาเมืองปะทะคาราวานขนยาเสพติดชายแดนอ.เชียงดาวจ.เชียงใหม่จับได้1คนยึดยาบ้า1.4แสนเม็ด

พลตรี นฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง เปิดเผยว่า เมื่อ 19 เม.ย.64 เวลา 23.00 กองกำลังผาเมือง โดย กองร้อยทหารม้าที่ 2หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ( ร้อย.ม.2 ฉก.ม 5 ) จัดกำลังพล 2 ชุดปฏิบัติการลาดตระเวนเฝ้าตรวจแนวชายแดนตามนโยบายของกองทัพภาคที่ 3 บริเวณ บ้านอรุโณทัย หมู่ 10 ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่ ซึ่งจากการลาดตระเวนอย่างเข้มข้นทุกตารางเมตร ได้ตรวจพบกลุ่มคนต้องสงสัย เข้ามาในพื้นที่ท่าทางมีพิรุธ จึงทำการแจ้งเตือนเพื่อนำกำลังบางส่วนขอตรวจค้น ซึ่งกลุ่มคนดังกล่าวได้ใช้อาวุธยิงตอบโต้ และเกิดการปะทะประมาณ 3 นาที จากการตรวจสอบพื้นที่ภายหลังการปะทะ กำลังทหารจากกองร้อยทหารม้าที่ 2หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 5 ( ร้อย.ม.2 ฉก.ม 5 ) กองกำลังผาเมืองสามารถจับกุมผู้ต้องหา 1 คน ลูกระเบิดขว้าง 1 ลูก อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอกพร้อมเครื่องกระสุน และเป้สะพายหลังสีเขียว จำนวน 2 เป้ ภายในบรรยาบ้า จำนวน 144,132 เม็ด เฮโรอีน จำนวน 5 ขวด น้ำหนักประมาณ 150 กรัม ยาไอซ์ จำนวน 2 ถุง น้ำหนักประมาณ 1.95 กก.

ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมือง กล่าวเพิ่มเติมว่า การปะทะระหว่างกำลังทหารกับกลุ่มขบวนการค้ายาในพื้นที่ กำลังทหารทุกนายปลอดภัย ปัจจุบันหน่วยได้ทำการควบคุมพื้นที่โดยรอบ และเข้าตรวจสอบพื้นที่โดยละเอียด เพื่อเตรียมขยายผล อย่างไรก็ตามจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ตลอดจนเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมืองในเมียนมา ทำให้เริ่มมีการสู้รบตามแนวชายแดนมากขึ้นส่งผลให้มีความพยายามในการลักลอบค้ายาเสพติดในพื้นที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ดังนั้นกองกำลังผาเมืองจึงให้หน่วยจัดกำลังเฝ้าระวังตามแนวชายแดนตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นกลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดที่ยังคงใช้เส้นทางธรรมชาติในการลำเลียงยาผ่านไปในพื้นที่ตอนในของประเทศซึ่งเราได้ทำการสกัดกั้นจับกุมอย่างเต็มที่ต่อไป

ชาวบ้านผาบ่องนิมนต์พระปลุกเสกน้ำมนต์สู้โควิด-19พ่นไล่เชื้อโรคร้ายให้พ้นหมู่บ้าน

นายอมร ศรีตระกูล กำนันตำบลผาบ่อง อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน ร่วมกับ เจ้าคณะตำบลผาบ่อง/เจ้าอาวาสวัดผาบ่องใต้ พระครูอนุกูลศีลสังวร ประกอบพิธีเสกน้ำมนต์ ไล่เชื้อโรคร้ายโควิด-19 โดยใช้เวลาสวดอายัดพระคาถา ทำพิธีเสกนานกว่า 1 ชั่วโมง ภายหลังเสกน้ำมนต์เสร็จ ก็ได้นำน้ำมนต์ที่ปลุกเสก ไปฉีดพ่นทั่วหมู่บ้านผาบ่อง ทั้ง หมู่ที่ 1 และหมู่ที่ 12 ซึ่งถือเป็นที่พึ่งทางใจในยามเกิดโรคร้ายขึ้น

นอกจากนั้นยังได้มีการทำบุญสวดพุทธมนต์รอบหมู่บ้าน เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชุมชน ในยามเกิดวิกฤติโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หวังปัดเป่าโรคร้าย ภัยพิบัติให้ออกจากพื้นที่ สร้างขวัญกำลังใจให้กับพี่น้องประชาชนได้กลับมาประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุขโดยเร็ว ซึ่งถือเป็นที่พึ่งทางใจในยามนี้ พร้อมให้ชาวบ้านสรงน้ำพระพุทธรูป ต้อนรับประเพณีสงกรานต์ของไทย และในช่วงค่ำวันเดียวกัน ได้ทำพิธี ขอขมาพระสงฆ์ ณ วัดผาบ่องเหนือและผาบ่องใต้ ด้วย

ล็อกดาวน์ปิดหมู่บ้านแล้วเมืองสามหมอกหวั่นคนนอกเอาเชื้อโควิด-19มาปล่อยติดชาวบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลายหมู่บ้านในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอปางมะผ้า เช่นที่ บ้านน้ำฮูผาเสื่อ ต.นาปู่ป้อม อ.ปางมะผ้า ชาวบ้านจะร่วมกันตั้งจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกาย ผู้ที่เดินทางเข้าหมู่บ้าน ส่วนบ้านหนองผาจ้ำ หมู่ 4 ต.สบป่อง ปิดหมู่บ้านเข้าออก เนื่องจากโควิดระบาดหนัก ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานราชการ ฝ่ายปกครอง อสม และชาวบ้าน ช่วยกันคัดกรองบุคคลเข้าออกและกลุ่มที่กลับจากพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ที่บ้านเมืองแพม หมู่ 5 ต.ถ้ำลอด เรียกประชุมคณะกรรมการหมู่บ้าน จัดเวรยาม ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยฯ ส.อบต. อสม. และชุด ชรบ. เฝ้าระวังบุคคลภายนอกห้ามเข้าก่อนได้รับอนุญาต กลุ่มเสี่ยงพื้นที่สีแดงห้ามเข้าอย่างเด็ดขาด สำหรับจังหวัดแม่ฮ่องสอนในขณะนี้มีผู้ติดเชื้อยอดสะสม 24 รายแล้ว